งูจงอางสัตว์เลี้ยงวัด ปล่อยสัตว์ปลอดภัย
โดยปกติองค์หลวงตาจะไม่เลี้ยงสัตว์มีพิษหรือสัตว์ตัวใหญ่ ๆ เพราะเกรงอันตรายจะเกิดกับชาวบ้านที่มาวัด ดังนี้
"สัตว์ตัวใหญ่ ๆ เอามาเลี้ยงไม่ได้นะ เป็นอันตราย ทำลายคน พวกหมูนี้ก็ไม่ได้ อีเก้งตัวผู้ก็ไม่ได้ เวลาคึกคะนองนี้ขวิดคน ต้องระวัง อย่างวัด....เขาเอากวางมาเลี้ยงไว้ เราไปเจอเข้าก็สะดุดเลย โอ๊ย..ทำไมเอากวางตัวใหญ่ ๆ มาเลี้ยงไว้ เดี๋ยวชนคนนะ มันทิ่มคน ไม่ได้นะ พอเราพูดจบคำ ท่านก็ว่ามันเคยชนคนมาหลายคนแล้ว ก็อย่างนั้นแล้ว สัตว์เหล่านี้ไม่ได้นะ ผูกโกรธด้วย พวกงูผูกโกรธเก่งนะ"
สำหรับวัดป่าบ้านตาดช่วงหนึ่ง ก่อนปี ๒๕๓๐ ยังไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านเหมือนสมัยนี้ ครั้งนั้นงูจงอางซึ่งเป็นสัตว์มีพิษร้ายแรง ไม่มีใครอยากพบเห็นหรืออยู่ใกล้ กลับกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของพระประจำวัดป่าบ้านตาดในช่วงเวลานั้น ดังนี้
"งูทุกชนิดในวัดนี้ เราจับทั้งนั้น แต่ก่อนเขาอยู่กับพระป้วนเปี้ยน ๆ อย่างจงอางนี้มันเหมือนสัตว์เลี้ยง ไม่แผลงฤทธิ์ เป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงเรา อยู่กับพระป้วนเปี้ยน ๆ ไม่แสดงฤทธิ์เดช แต่งูชนิดอื่นเราไม่แน่ แต่สำหรับงูจงอางนี้แน่ว่าไม่แสดงพิษภัยอะไรเลย แต่ก่อนปล่อยให้เขาอยู่กับพระ ก็พระทั้งวัดนี่ งูไปที่ไหนก็เจอพระเรื่อย ๆ องค์ไหนก็แบบเดียวกัน
เพราะเราสั่งกับพระไว้เรียบร้อยว่า อย่าไปหยอกไปเล่นเป็นอันขาด ให้เดินผ่านไปเฉย ๆ คือ การหยอกเล่นของเรา เขาจะถือว่าจริงจังกับเขา เพราะสัตว์เหล่านี้ถือมนุษย์นี้เป็นข้าศึก เราไปทำอะไรหยอกเล่นกับเขา เขาจะถือว่าเป็นจริงกับเขา หลังจากนั้นแล้วเขาผูกโกรธผูกแค้น เวลาเห็นเราไปนี้เขาจะเจอเราก่อนไป เราไม่รู้เขาฉกปั๊บ เพราะฉะนั้น..จึงไม่ให้สนใจเลย ใครจะเจอที่ไหนให้เดินผ่านไปธรรมดา แล้วเขาจะชินเอง เขาจะรู้นิสัยของพระเอง
และมันก็เป็นอย่างนั้น ไปที่ไหนวันหนึ่งเจอพระสักกี่องค์ เจอแบบเดียวกันหมด ไม่มีใครสนใจ เดินผ่านไป บางทีขวางทาง เราไปนี้พอดีเป็นจังหวะเขาออกมาก็ไปเจอเขา เขาก็นิ่ง บางทีเราก็ไปทางหัว เขาก็นิ่ง บางทีก็ไปทางหาง เขานิ่งของเขาอยู่งั้นแหละ ทีนี้พอเราผ่านไปแล้วเขาก็เลื้อยไป เป็นประจำอย่างนั้น ที่ไหนเหมือนกันหมด ทีนี้งูจงอางกับพระเลยเป็นสัตว์เลี้ยงนะ
อยู่ในครัวนี่เวลาพระมาฉันน้ำร้อนเขาเลื้อยเข้ามาเฉย พระนั่งอยู่เขาผ่านเข้ามาตรงกลาง "มึงมาอะไรไอ้ขี้ดื้อ ?" พระท่านว่า แต่ท่านไม่หยอกเล่นนะ เขาก็เลื้อยเข้ามาเฉยไปเลย เป็นอย่างนั้นนะ โอ๊ย..หลายตัว ประมาณสัก ๙ ตัว ๑๐ ตัว เท่าที่เราจำได้นี่ละ จับออกไป ๆ แต่ก่อนไม่จับ ทีนี้เวลาคนมามาก ๆ เข้า คนกับพระมันต่างกัน มาเจอเขาเข้าจะไปหยอกไปเล่นกับเขา ๑ แล้วมาแบบเซ่อ ๆ ซ่า ๆ ๑ ซึ่งเป็นภัยทั้งนั้น เลยต้องจับออก ๆ ไปปล่อยในภูเขา ทุกวันนี้ไม่มีแหละ"
โดยปกติเวลาที่นำสัตว์ไปปล่อยจะใกล้หรือไกลเพียงใดเป็นไปตามชนิดของสัตว์ และความปลอดภัย ว่าจะเป็นสัตว์ร้ายหรือไม่ก็ตาม ความปลอดภัยของสัตว์ตัวนั้น ๆ ต้องปลอดภัยที่สุด ส่วนมากองค์หลวงตามักให้พระหรือฝากฆราวาสที่ไว้ใจได้ไปปล่อย แต่ก็มีอยู่คราวหนึ่งที่ท่านนำไปปล่อยด้วยตัวเอง ดังนี้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-09-2024 เมื่อ 02:02
|