กระผม/อาตมภาพเองมีความเลื่อมใสในสถานที่ทั้งหมดอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้มีข้อบังคับหรือกฎเกณฑ์ประจำตัว แต่เมื่อหลวงปู่ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาบอกให้ ก็ได้ทำการถวายสักการะเป็นประจำทุกปีหลังจากออกพรรษา ช้าบ้างเร็วบ้าง ตามแต่งานที่รัดตัวอยู่ ถ้าตราบใดที่ยังพอที่จะเดินทางได้ไหว ก็คิดว่าจะมาถวายสักการะด้วยตนเองเช่นนี้ทุกปี
เมื่อกราบพระ สวดมนต์ อธิษฐานและอุทิศส่วนกุศลเสร็จเรียบร้อยแล้ว พ่อเทวดาก็นำทางกลับมาทางเดิม แต่ปรากฏว่าคุณแดง โชเฟอร์ของเรามัวแต่ไปดักอยู่หน้าประตูใหญ่ เจอ "เจ้าถิ่น" ที่ชำนาญทางกว่า จึงยืนรอเสีย "เงก" ไปเลย จนกระทั่งต้องโทรศัพท์ตามตัวถึงจะมา..!
เรื่องพวกนี้หลายท่านบางทีก็สังเกตว่า กระผม/อาตมภาพไปถึงสถานที่นั้นเป็นครั้งแรกในชีวิตเหมือนกัน แต่ทำไมเดินเหมือนอย่างกับคนที่คุ้นเคยมาก ? ก็เกิดจากสองสาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกก็คือเคยเกิดอยู่บริเวณสถานที่นั้นมาก่อน สาเหตุที่สองก็คือมีเจ้าถิ่นพาไปแบบในลักษณะนี้
แต่ไม่ใช่แบบตอนที่ไปประเทศในยุโรป เพื่อดูงานในฐานะนิสิตปริญญาเอก เพื่อน ๆ หลายคนถึงขนาดปรารภว่า "พระครูวิลาศฯ รู้ได้อย่างไรวะว่าห้องน้ำอยู่ทางด้านนี้ ?" แล้วก็มีเพื่อนฟันธงว่า "ผมว่าท่านต้องดมกลิ่นเอาแน่เลย..!" กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่ไล่เตะเพื่อนฝูงปากปีจอ พร้อมกับบอกว่า "อย่าโง่สิวะ..! เขาให้มองที่พื้น ถ้าหากว่ามีตัวอักษร WC ก็ให้รู้ไว้ว่านั่นคือทางไปห้องน้ำ ฝรั่งเขาไม่ได้ติดป้ายเอาไว้ในระดับสายตาแบบพวกเรา แต่เขาใช้ตัวอักษรบนพื้น พร้อมกับลูกศรชี้ทางเท่านั้น โง่แล้วยังว่าคนอื่นให้เสียหายอีก..!"
ในฐานะที่เป็นพรรคพวกเพื่อนฝูงกัน บางทีเราก็เล่นกันแรง ๆ จนกระทั่งครูบาอาจารย์บางท่านก็เป็นห่วงว่าจะโกรธจะเคืองกันหรือเปล่า ? แต่ก็เห็นรักใคร่สามัคคีกันดีมาจนทุกวันนี้ แม้กระทั่งเพื่อนฝูงร่วมรุ่นปริญญาเอกหลายต่อหลายท่าน ก็กลายเป็น FC วัดท่าขนุนตัวจริงไปเสียแล้ว..!
เมื่อกราบสักการะพระพุทธชินราชและหาสถานที่เข้าห้องน้ำแล้ว พวกเราก็ฝ่าฝนตรงไปยังจังหวัดสุโขทัยเพื่อเข้าสู่ที่พักคืนนี้ เนื่องเพราะว่าพรุ่งนี้นั้นมีงานสืบชะตาหลวงของหลวงพ่อบุญส่ง อุปสโม - ท่านพระครูพิศาลสันติคุณ เจ้าอาวาสวัดเขาแร่ในพระสังฆราชูปถัมภ์ จึงตั้งใจว่าจะเดินทางไปพักอยู่ใกล้ ๆ
เหตุที่ไม่ยอมเข้าไปวัดก็เพราะว่า กระผม/อาตมภาพเข็ดกับที่พักในวัดเขาแร่ไปแล้ว เนื่องจากว่าแต่ละห้องนั้น ประเดประดังเอากลิ่นน้ำอบน้ำหอมสารพัดเอาไว้จนปวดหัวไปหมด แทนที่จะได้พักผ่อนก็กลายเป็นนอนไม่หลับแทน จึงใช้วิธีหาที่พักทางด้านนอก แล้วช่วงเช้าค่อยเดินทางเข้าไปยังหน้างาน
ที่พักคืนนี้รู้สึกว่าดีมากเสียด้วย ก็คือบ้านทุ่งรีสอร์ต อยู่ในบริเวณอำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย ซึ่งตรงบริเวณนั้นน่าจะเป็นเพราะว่าห่างจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จึงทำให้ที่พักนอกจากจะเหลือเฟือ เพราะว่าเป็นช่วง "โลว์ซีซั่น" และพายุฝนมาแล้ว ยังเป็นสถานที่ไม่ได้ใกล้แหล่งเที่ยวอะไรมากมาย นอกจากหลวงพ่อศิลา วัดทุ่งเสลี่ยมเท่านั้น จึงเหลือที่พักที่เป็นบ้านเป็นหลัง ๆ ให้กับพวกเรา อ่านในรีวิวแล้วรู้สึกว่าจะมีหมอนวดเสียด้วย ถ้าหากว่าไปถึงแล้วมีหมอนวดผู้ชาย จะลองให้ช่วยซ่อมสุขภาพดูสักหน่อย
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2024 เมื่อ 02:05
|