ไล่ขนาบสัตว์
บางครั้งสัตว์ที่ไม่มีพิษไม่เป็นอันตรายก็กลับสร้างปัญหาขึ้นได้เหมือนกัน โดยปกติไก่ป่าในวัดจะขันเป็นระยะ ๆ ทั้งวันในช่วงกลางวัน แต่หากมีเหตุการณ์อะไรที่เป็นอันตราย ก็จะตกใจร้องกะต๊ากดังขึ้นและถี่ขึ้น จากนั้นตัวอื่น ๆ ก็จะร้องตาม ๆ กัน ยิ่งหลายตัวเท่าใดก็ยิ่งทำความรำคาญแก่นักปฏิบัติไม่น้อย องค์หลวงตามีมาตรการ ดังนี้
"ไก่ที่กะต๊ากมันมีเหตุการณ์นะ ธรรมดาเราก็เข้าไปดูมันมีอะไร หรือมีงูมีอะไรอยู่นั่นมันถึง "กะแต๊ก ๆ" อยู่งั้นตลอด ตั้งแต่เช้ามาจนกระทั่งสายไม่หยุด ไปก็เอาใหญ่เลย คว้าได้ก้อนกรวดตามนั้นกำไว้เต็มมือ เอาหนังสะติ๊กติดมือแล้วก็ไป "มึงร้องอะไร ?" มันก็ร้องอยู่นั่นละใกล้ ๆ ก็มันไม่ได้กลัวใครนี่ มันเคยกับพระแล้ว "กะแต๊ก ๆ" อยู่งั้นมึงกลัวอะไร ?
เราก็หาดูเหตุการณ์ที่มันกลัว เช่นอย่างมีงู มันทักไว้เพื่อเตือนลูกก็ได้ ลูกมันมี ไปหาดูที่ไหนก็ไม่มี มันก็ยัง "กะแต๊ก ๆ" เราเดินเข้าไปนี้มันก็ยัง "กะแต๊ก ๆ" อยู่ไม่ยอมหยุด หาดูหมดไม่มีอะไรแล้ว ทีนี้ตั้งท่ากำก้อนกรวดในมือฟาดทางโน้นทางนี้เลย เปิดทั้งแม่ทั้งลูกเลย..หายเงียบ นั่น..มันชอบอย่างนั้น ต้องเอาอย่างนั้น..ใช่ไหม ?
มันหลายแบบนะ หลวงตาไปหาดูอันตรายก็ไม่มี มันร้องอะไรนักหนานี่นะ ลูกก็อยู่ด้วยกันนั่น ไม่เห็นตื่นเต้น แต่แม่เป็นบ้าอะไร ? นั่นละ..เอาแม่มัน สุดท้ายลูกวิ่งตามแม่ ไล่ขนาบไล่หลงทิศไปเลย เข้าป่านู้นอีกนะ เข้าตามไล่เอาจริง ๆ ตั้งแต่นั้นมาเงียบเลย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-09-2024 เมื่อ 19:57
|