ส่วนท่านที่รับยันต์เกราะเพชรไป ถ้าหากว่ามีท้องแล้วเป็นลูกคนแรก คลอดออกมาเป็นผู้ชายจะมียันต์ติดตัวมาด้วย ตั้งแต่อาตมภาพเป่ายันต์มาครั้งแรกถึงปัจจุบัน มีเด็กที่มียันต์ติดตัวมาหลายต่อหลายคนแล้ว
บางคนพ่อแม่ลืมไปว่ามาเข้าพิธีรับยันต์เกราะเพชร เห็นลูกตัวลายพร้อยก็รีบพาไปหาหมอ หมอก็เจาะเลือดเจาะไขสันหลังสารพัด จนเด็กเจ็บแทบตาย ก็ยังวิเคราะห์หาสาเหตุไม่ได้ แล้วยังไปตั้งชื่อเป็น "เคสเด็กตุ๊กแก" เพราะว่าลายไปทั้งตัว อาตมภาพก็เลยบอกพ่อแม่ว่า ไปแอบอุ้มลูกออกมา ขืนปล่อยไว้ก็กลายเป็นหนูทดลองยาให้หมอไป
เขาก็อุ้มลูกออกจากโรงพยาบาลมาโดยไม่บอกไม่กล่าวเหมือนกัน ยันต์เกราะเพชรที่ปรากฏอยู่บนตัวเด็กที่เป็นผู้ชายและเป็นลูกคนแรก จะค่อย ๆ ซึมเข้าไปอยู่ในกระดูกภายใน ๗ วัน พูดง่าย ๆ ว่าไม่เหลือเอาไว้หรอก แต่ด้วยความที่ไม่เคยเห็นและไม่มีประสบการณ์ พ่อแม่ก็ต้องกังวลเป็นธรรมดา
มีอยู่รายหนึ่ง สมัยนั้นคลอดตามวิธีเก่า ก็คือหมอตำแยช่วยจัดการให้ ออกมาตัวลายพร้อย ญาติพี่น้องตกใจ หมอตำแยบอกว่า "ไม่เป็นไรอีหนู..เดี๋ยวป้าจัดการให้" ว่าแล้วก็อมเหล้าเป่าพรวดเดียว หายเกลี้ยงเลย..! ป้าแกร้ายกาจกว่าตั้งเยอะ พระจัดพิธี จัดบายศรีหมดไปเป็นหมื่นเป็นแสนกว่าที่จะเป่ายันต์ได้ ป้าแกใช้เหล้าคำเดียวหายเรียบ..! ก็ต้องบอกว่าป้าแกรู้จริง ความจริงยันต์ไม่ได้หายไปไหน แต่ว่าไปอยู่ในกระดูกแทน แล้วแทนที่จะค่อย ๆ เข้าไป ภายใน ๗ วันค่อยหายหมด ปรากฏว่าวิ่งหนีเหล้าเข้าไปพรวดเดียวหมดเลย..!
การที่เรามีของดีอยู่กับตัวก็จงอย่าได้ประมาท ต้องพยายามภาวนาเอาไว้ทุกวัน ถ้ากำลังใจเราเกาะการภาวนาเป็นปกติ ตายไปก็ยังเกิดเป็นพรหมได้อีกต่างหาก ถ้าไม่นิยมการเกิด สมาธิทรงตัวได้ระดับ ก็อาจจะถึงขนาดหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2024 เมื่อ 02:01
|