พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านเป่ายันต์เกราะเพชรครั้งแรกปี ๒๕๒๔ จนถึงครั้งสุดท้ายรวมแล้ว ๑๘ ครั้งด้วยกัน อาตมภาพเป็นลูกโดนบังคับ น่าจะเกิน ๑๘ ครั้งไปแล้ว เหตุเพราะว่ารุ่นของเรานี่ไม่ค่อยจะระมัดระวังกัน ข้าวปลาอาหารที่ผสมสุรา บรั่นดี สารพัดเอาหมด..! ถึงเวลายันต์หลุดก็ต้องมารับกันใหม่ รุ่นอาตมภาพยังเหนื่อยขนาดนี้ ถ้าครอบครูรุ่นต่อไป สงสัยอยู่ว่าท่านจะเหนื่อยกันขนาดไหน ?
น่าเสียดายที่ว่าพระที่รับการครอบครูทั้งหมด ๙ รูปเหลืออยู่ในวัดท่าซุงรูปเดียว วันก่อนพระเดชพระคุณพระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม ป.ธ. ๙, Ph.D.) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา วรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม บ่นว่า "พวกแกไม่มีใครรับช่วงได้เลยหรือ ? ข้าถามท่านอาจารย์สมนึก เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ท่านก็บอกว่าครอบครูไม่ทัน" ก็เลยกราบเรียนท่านไปบอกว่า "ผมก็ทำอยู่นะครับ เพียงแต่ไม่ได้เล่าให้หลวงพ่อฟังเท่านั้น"
ท่านบอกว่า "ค่อยยังชั่วหน่อย เพราะเกรงว่าวิชาจะสิ้นสุดลงไป ถ้าไม่มีใครสืบทอดจะน่าเสียดายมาก เนื่องจากว่าสามารถรวมคณะศิษย์ได้มาก ทำให้มีกำลังในการช่วยงานพระพุทธศาสนาได้มาก เกิดไม่มีใครรับช่วงเอาไว้ วิชานี้ขาดสูญไปก็จะลำบาก"
แบบเดียวกับวิชาการทำแมลงภู่คำ เขามีข้อจำกัดที่ว่าต้องเป็นเชื้อเจ้าเท่านั้น ระยะหลังก็เลยมีญาติโยมอยู่จำนวนหนึ่งที่ฉลาด บวชพระเข้ามาแล้วก็ไปครอบครูสายแมลงภู่คำ เพราะเขาถือว่าเป็นเชื้อสายเจ้าชายสิทธัตถะ น่าเหวี่ยงให้สักที..! ก็ต้องบอกว่าเป็นความฉลาดส่วนตัว..แบบนี้เราไม่ว่ากัน..!
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ปกิณกธรรมงานบวงสรวงไหว้ครูและเป่ายันต์เกราะเพชร (รอบเช้า) ณ วัดท่าขนุน
วันที่ ๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-09-2024 เมื่อ 01:13
|