เมื่อทราบว่าเรียนหนังสืออยู่แค่ชั้นประถมปีที่ ๓ เท่านั้น พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรสุนทร (ประเทือง อาภาธโร ป.ธ. ๔) เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี รองประธานคณะกรรมการบริหารกลาง โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ เจ้าของโรงเรียนวินิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์ฯ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประกาศว่า "ผมส่งเรียนต่อจนจบเลย"
แต่ขอโทษ..ท่านร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีไวกว่า ควักกระเป๋านับเงินออกมา ใส่ซองให้หนูน้อยเป็นทุนการศึกษาไป ๙,๐๐๐ บาท..! เสียงปรบมือดังสนั่นหวั่นไหว ชมเชยทั้งเด็กหญิงน่านรักษ์ ที่สามารถบรรยายธรรมได้คล่องแคล่ว ชนิดที่บางทีพระก็สู้ไม่ได้เสียด้วย และท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเสือปืนไวของเรา ที่รีบควักกระเป๋ามอบทุนการศึกษาเบื้องต้นให้ก่อน แต่อย่างไรเสีย เด็กหญิงน่านรักษ์ ทองปอน ก็คงไม่พ้นไปจากโรงเรียนวินิตศึกษาแน่นอน เนื่องเพราะว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณประเทืองหมายมั่นปั้นมือเอาไว้แล้ว ว่าเด็กเก่งอย่างนี้จะปล่อยให้หลุดมือไปได้อย่างไร..?!
หลังจากนั้นก็เป็นการบูชาพระ กราบพระ และสวดมนต์กันตรงนี้ เนื่องเพราะว่าอุโบสถวัดบ้านน้ำมุดนั้น ยังสร้างไม่เสร็จเรียบร้อย พื้นก็ยังไม่ได้เท เมื่อทำการสักการบูชาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดก็เปิดกรวยถวายราชสักการะ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ บรรดาผู้นำส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี กระผม/อาตมภาพฟังดูแล้วแปลกใจมาก เนื่องเพราะว่าแม้จะเป็นระดับเสียงที่สูงลิบตามแบบที่อื่นเขาเปิดเสียงตามสายก็ตาม แต่ที่นี่มีเสียงใหญ่ ๆ แจ่มใส ร้องเพลงและโหนสูงตามได้ทุกคีย์เสียด้วย เมื่อหันไปมองถึงได้เห็นว่าที่นี่มีการ "ร้องสด" โดยนักร้องเอง
หลังจากที่พระภิกษุสงฆ์ทุกรูปช่วยกันสวดบทจักกิวังสทสมปรเมนทมหาราชาภิถุติคาถา ถวายพระพรในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ แล้ว นักร้องท่านนั้นยังออกมาร้องเพลง "แด่สมเด็จช่วงด้วยดวงใจ" ซึ่งถือว่าเป็นเพลงประจำโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ เสียงไพเราะและโหนสูงได้ตามคีย์ทุกประการ จึงได้รับรางวัลและรับเสียงปรบมือไปดังสนั่นหวั่นไหวเหมือนเดิม หลังจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามตารางกำหนดการ
เมื่อถึงเวลาประมาณ ๑๑.๑๐ น. กระผม/อาตมภาพก็แว่บออกจากงาน เพราะว่าไม่ต้องการอยู่ร่วมพิธีปิด ที่ต้องรีบเดินทางออกไปก่อนเพราะทราบดีว่า ถ้าให้รถอื่นนำหน้าเมื่อไร ท่านทั้งหลายต้องคลานตามกันอย่างแน่นอน เนื่องจากหนทางขึ้นไปบ้านน้ำมุดนั้น ตอนขึ้นก็ไม่กระไรนัก แต่ว่าตอนลงก็คือทางลงเขาที่ทั้งคดเคี้ยวและลื่นด้วยน้ำฝน ไม่สามารถที่จะทำความเร็วได้ ถ้าไม่ออกก่อนต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน..!
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) นั้น มีความถนัดและชำนาญอยู่แล้ว จึงได้ทิ้งการทิ้งงานทั้งหมด ตลอดจนกระทั่งการฉันเพล โดดขึ้นรถได้ก็อาศัยเสบียงกรังเล็กน้อยที่มีอยู่บนรถเป็นมื้อเพล สามารถที่จะออกมาจนกระทั่งถึงสามแยกเขื่อนศรีนครินทร์ได้ จึงค่อยถอนหายใจโล่งอก...
โดยที่มีรถยนต์คันเดียวที่วิ่งตามมาและแซงไป ก็คือรถของท่านอาจารย์พระมหาประกอบ โชติปุญฺโญ ป.ธ.๗, ดร. รองเจ้าคณะจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นคณะกรรมการตรวจประเมินในหมวดที่ ๔ ไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านมีภารกิจเร่งด่วนอะไร ลูกน้องถึงได้เหยียบจนกระทั่งแทบจะหลุดโค้งแบบนั้น แต่คาดว่าในระดับรองเจ้าคณะจังหวัดแล้ว งานของท่านน่าจะมากกว่ากระผม/อาตมภาพเสียอีก ส่วนกระผม/อาตมภาพนั้นได้ไปพักอยู่ที่วัดท่ามะขาม เพื่อที่จะรอในการตรวจประเมินหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ในวันต่อไป
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๙ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 04-03-2025 เมื่อ 20:15
|