ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 09-09-2024, 00:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ ทั้งที่พักผ่อนไม่พอแต่ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ช่วงเช้ากระผม/อาตมภาพพาพระวัดท่าขนุนฝ่าสายฝนออกไปรับบาตรตามปกติ เห็นญาติโยมที่ฝ่าฝนออกมาใส่บาตรแล้วยังรู้สึกสะท้อนใจว่า ถ้าหากพระภิกษุสามเณรของเราไม่ยอมออกบิณฑบาต ทั้ง ๆ ที่ญาติโยมรอใส่บาตรอยู่ ก็คงจะไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส..!

วัดท่าขนุนของเรานั้น จะฝนตกแดดออก ฟ้าถล่มดินทลายอย่างไร ก็ออกบิณฑบาตเป็นปกติ จนกระทั่งญาติโยมทุกคนทราบทั่วกันแล้วว่า ไม่ว่าสภาพอากาศแบบไหน ทางวัดท่าขนุนก็ให้พระภิกษุสามเณรออกบิณฑบาตกันทั้งนั้น จึงทำให้คนแถวนี้น้อยคนที่จะให้ลูกไปบวชที่วัดท่าขนุน เนื่องเพราะกลัวว่าลูกของตนจะต้องลำบาก..!

ต้องตื่นตั้งแต่ตี ๓ ครึ่ง เจริญกรรมฐาน ทำวัตรเช้าแล้วออกบิณฑบาต ฉันเช้าเสร็จแล้วก็ร่วมกันทำความสะอาดวัด จากนั้นใครที่เรียนนักธรรม เรียนบาลีก็ต้องไปเรียนจนกว่าจะเพล ฉันเพลเวลา ๑๑ โมงครึ่ง มีเวลาให้ประมาณ ๑๕ นาทีเท่านั้น อิ่มไม่อิ่มก็ต้องเลิก พูดง่าย ๆ ว่าต่อให้ไม่พิจารณาอาหาเรปฏิกูลสัญญา ท่านเองก็ไม่มีเวลามานั่งละเลียดด้วยความอร่อยอยู่ดี เนื่องเพราะว่าถ้าขืนช้าก็จะฉันไม่อิ่ม..!

จากนั้นก็ฟังเสียงธรรมจากหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ซึ่งเปิดเสียงตามสายไปทั่ววัดตั้งแต่เที่ยงตรงจนถึงเที่ยงครึ่ง แล้วช่วงบ่ายใครที่เรียนนักธรรม เรียนบาลี ก็เข้าสู่โหมดการเรียนตามปกติ ตอน ๔ โมงเย็นเลิกเรียน ฟังเสียงตามสายรอบเย็น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็คือพระวินัยของพระภิกษุของเรานั่นเอง แปลว่าทางวัดเปิดศีลพระกรอกหูอยู่ทุกวัน..!

จบจากเสียงตามสายรอบเย็นก็เป็นการทำความสะอาดวัดร่วมกัน เสร็จแล้วก็ไปสรงน้ำแต่งตัว มาทำวัตรค่ำรอบแรก ต่อด้วยการฟังเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ถ้ากระผม/อาตมภาพไม่อยู่ ก็จะไม่มีเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนสอดแทรกตรงกลาง หากแต่ต่อด้วยการทำวัตรค่ำรอบสองไปเลย แล้วเวลา ๒ ทุ่ม ก็จะเป็นเสียงตามสายรอบค่ำ ตั้งใจให้ฟังแล้วภาวนาจนหลับไป เพื่อที่จะตื่นขึ้นมาตอนตี ๓ ครึ่ง เริ่มเข้าสู่วงจรเดิม ๆ กันอีก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2024 เมื่อ 05:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา