ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 08-09-2024, 00:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,654
ได้ให้อนุโมทนา: 158,549
ได้รับอนุโมทนา 4,488,890 ครั้ง ใน 36,263 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้การฝึกเมตตาพรหมวิหารไม่ใช่ว่าไม่เคยฝึก เคยฝึกถึงขนาดต้องไปขอข้าวรุกขเทวดากิน สรุปก็คืออดมากกว่าได้ เพราะว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านบอกว่าอย่าเพิ่งออกป่า เราต้องขอข้าวเทวดากินได้ก่อนถึงจะประกันความเสี่ยงได้ ท่านให้ขอกับต้นไม้หน้ากุฏินั่นแหละ ถ้าหากว่าขอไม่ได้เราก็ยังมีโรงครัวให้อาศัย ถ้าเข้าป่าไปทีเดียวแล้วขอไม่ได้ก็แปลว่าอด..!

ซักซ้อมอยู่เป็นเวลานานมาก วันแรก ๆ ก็รักษาสภาพจิตเอาไว้ ผ่องใสมาก หมูหมากาไก่ จิ้งจก ตุ๊กแกที่ไหนก็ยิ้มให้ได้หมด พอวันที่ ๒ ก็ทะร่อทะแร่เหมือนนกปีกหัก อย่างกับคนแบกข้าวสารกระสอบละ ๑๐๐ กิโลกรัม

ยังไม่ทันจะวันที่ ๓ เต็มวันก็ตกแอ้ก..! พังเรียบร้อย หลวงพ่อท่านบอกว่า เราต้องแผ่เมตตาให้ได้ต่อเนื่องอย่างน้อย ๓ วันโดยไม่บกพร่อง ถึงจะขอข้าวเทวดากินได้

ในเมื่ออยู่ในสถานที่ของตนเองแล้วฝึกหนักขนาดนั้น ยังไม่สามารถที่จะรักษาอารมณ์ไว้ได้ทั้งวัน ก็เหลือทางเดียวคือออกป่า แต่ปรากฏว่าป่าที่ลาหลวงพ่อท่านไปธุดงค์นั้น เป็นป่าใหญ่ที่ต่อเนื่องระหว่างสุโขทัยกับลำปาง เป็นป่าดงดิบที่ค่อนข้างจะดุมาก เอาแค่ทากอย่างเดียว ขนาดเราวิ่ง ๆ ยังเกาะจนเต็มขา เรื่องสัตว์อื่นไม่ต้องไปพูดถึง มากจนเหมือนอย่างกับคอกวัวคอกควายของเรา..!

ด้วยความที่ป่าดุจนเกินไป แทนที่จะได้ตัวเมตตามา กำลังใจก็เลยกระโดดข้ามขั้น กลายเป็นสังขารุเปกขาญาณแทน ปล่อยวางจนหมดเลย เพราะว่าเดินไปก็มีความรู้สึกเหลืออยู่อย่างเดียวว่า "ตายแน่..ตายแน่" ก็คือพื้นที่ทุกตารางนิ้วมีแต่รอยเท้าสัตว์ เหมือนอย่างกับเวลาเรามองเข้าไปในคอกวัวคอกควาย มีแต่รอยเท้าแน่นไปหมด แบบนั้นเลย

คราวนี้พวกท่านทั้งหลายถ้าหากว่าจะฝึกฝนตรงนี้ ต้องหมั่นสังเกตกำลังใจตัวเอง เวลาเราสั่งหรือว่าดุแล้วญาติโยมไม่ทำตาม อารมณ์ใจเราขุ่นมัวหรือเปล่า ? ไม่ต้องสงสัย..เจ๊งกะบ๊งกันหมด..! ถึงข้างนอกรักษาฟอร์มเอาไว้ได้ก็เจ๊ง ไฟไหม้อยู่ข้างในแล้ว..!

ก็เหลืออยู่ทางเดียวก็คือ ทำอย่างไรที่จะสลัดอารมณ์เหล่านี้ออกจากใจของเราให้ได้เร็วที่สุด ก็ต้องใช้ปัญญาพิจารณาแยกแยะว่า ปกติธรรมดาของคนเราก็เป็นเช่นนั้น บุคคลที่กำลังใจต่ำ มากไปด้วยความมืดบอด บอกอะไรก็รับรู้ไม่ได้ หรือว่าฟังไม่รู้เรื่อง เอาแต่กำลังใจหรือว่าความชอบใจของตนเองเป็นใหญ่ พยายามพิจารณาให้เห็นชัดว่า ปกติธรรมดาของเขาเป็นเช่นนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2024 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา