เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าอย่าหวังพึ่งรัฐบาล ไม่ว่าจะในประเทศไหนก็ตาม เราต้องยึดหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ อัตตาหิ อัตตโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ถ้าสามารถทำการเกษตรอย่างที่วัดท่าขนุนทำต้นแบบเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นแปลงผักสวนครัวรั้วกินได้ หรือว่าแปลงเกษตรสาธิตเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยศาสตร์พระราชา หรือแปลงเกษตรสาธิตโคกหนองนาในพระราชดำริ ต่อให้ไม่มีเงินไม่มีทองเราก็มีกิน
เพียงแต่ว่าพวกเราเคยชิน เคยชินกับการเอาเงินไปให้เศรษฐี ต้องบอกว่าน่าชื่นใจมาก ทุกคนมีใจเสียสละ มีจาคานุสติเป็นปกติ..! ก็คือเอาสตางค์ไปเข้าร้านสะดวกซื้อ เพื่อช่วยให้เศรษฐีรวยยิ่ง ๆ ขึ้นไป ไข่ไก่ต้มเองกับบ้านอย่างเก่งก็ฟองละ ๓ บาท วิ่งไปซื้อที่เขาต้มแล้วในร้านสะดวกซื้อ เจอไปฟองละ ๖ บาท..! แต่กูจะเอาอย่างนั้นเพราะว่าสะดวกดี กล้วยหอมซื้อทั้งหวีไม่กี่สิบบาท ไปซื้อในร้านสะดวกซื้อผลละ ๘ บาท ได้ยินแล้วจะเป็นลม..!
ตอนที่เปิดบ้านเติมบุญใหม่ ๆ กระผม/อาตมภาพเคยนั่งแท็กซี่ แล้วเขามีรถไฟฟ้าสายสีม่วงผ่านบริเวณนั้น ถามคนขับแท็กซี่ว่ามีผลกระทบต่อรถแท็กซี่หรือเปล่า ? คนขับแท็กซี่บอก "ไม่มีหรอกครับ ตราบใดที่รถไฟฟ้าไปส่งคนถึงประตูบ้านไม่ได้ผมก็ยังไม่เดือดร้อน เพราะว่านิสัยคนไทยขี้เกียจครับ สองเสาไฟฟ้าก็หาเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างแล้ว ถ้ารถไฟฟ้าวิ่งไปส่งถึงหน้าประตูบ้านไม่ได้ รถแท็กซี่ยังหากินได้ตลอดเวลา" กระผม/อาตมภาพพิจารณาดูแล้วก็จริงของเขา..!
เมื่อไรคนไทยเราจะขยันเสียบ้าง ? จะได้ช่วยประหยัดได้มากขึ้น เพราะว่าสิ่งที่เราจ่าย อย่างเช่นว่าค่ารถมอเตอร์ไซค์รับจ้างทีละ ๒๐ บาท ๕๐ บาท รวม ๆ กันแล้วมากทีเดียว มากพอ ๆ กับซื้อหวยทุกงวดนั่นแหละ..! แต่พวกเราไม่ค่อยจะคิด เพราะว่าอันดับแรกก็คือ ไม่เคยทำบัญชีรายรับรายจ่าย ในเมื่อไม่ทำ ไม่เห็นรายจ่ายเราจะไม่รู้สึกกลัว แล้วก็ใช้เงินแบบไม่คิดกันต่อไป ถึงเวลาก็เดือดร้อนต้องไปเป็นหนี้บัตรเครดิตบ้าง เป็นหนี้นอกระบบบ้าง เป็นหนี้ไฟแนนซ์บ้าง ทั้ง ๆ ที่พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ชัดเจนว่า อิณาทานัง ทุกขังโลเก การเป็นหนี้เป็นทุกข์ในโลก แต่เราก็ไม่ค่อยรู้สึกรู้สากัน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2024 เมื่อ 02:45
|