ไม่ลืมสัตว์ในวัด
ความเมตตาส่วนนี้องค์ท่านถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง ชนิดที่ไม่ยอมให้บกพร่องเลย นั่นคือความเมตตาสงสารสัตว์ที่อยู่ในวัดป่าบ้านตาด ซึ่งมีอยู่หลายประเภท เช่น ไก่ป่า กระรอก กระจ้อน กระแต ฯลฯ
องค์ท่านสังเกตใส่ใจดูแลเรื่องอาหารน้ำตลอดมา โดยเน้นย้ำตักเตือนพระเณรมิให้มองข้ามหรือเผลอลืมให้อาหารสัตว์ พร้อมให้เหตุผลด้วยว่า เขาอยู่กับเรา เขาก็อาศัยเรา เราจะใจจืดใจดำไม่สนใจการกินอยู่ของเขานั้นไม่ควรอย่างยิ่ง เราก็หิว เขาก็หิว เรามีปากมีท้อง เขาก็มีปากมีท้องเช่นกัน อย่าเป็นพระแบบใจดำ ๆ สิ่งใดพอจะเอื้อเฟื้อเกื้อกูลก็ช่วยเหลือกันไป จึงจะสมกับเป็นลูกศิษย์ตถาคตผู้มีเมตตาธรรม
ด้วยเหตุนี้ภายในวัดจึงมีจุดให้น้ำให้อาหารกระรอกกระแต ทำเป็นร้านเล็ก ๆ สูงระดับอกกระจายอยู่ทั่ววัด กะจำนวนได้มากกว่าร้อยจุด องค์ท่านเน้นว่า ร้านกระรอกทุกร้านควรมีข้าวเหนียว กล้วยสุกหรือผลไม้สุกในปริมาณพอดีกับที่เขาต้องการ ไม่มากไปจนบูดเน่าเหม็นหรือน้อยไปจนขาดเขิน ควรเหลือไว้พอดี ๆ เสมอ ขอยกคำกล่าวของท่านที่แสดงถึงความใส่ใจในชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์มาแสดงแต่พอสังเขป ดังนี้
"เราเดินเข้าไปทีไรไม่เห็นสับปะรดสักลูกหนึ่งแขวนอยู่นั่นเลย ตรงนี้ละซี ที่ว่ากระรอกร้องห่มร้องไห้ก็ตอนนี้แหละ ขาดสับปะรด ไปทีไรไม่เห็นสักที เราก็เลยปลอบโยนกระรอกว่า
"สูกินกล้วยไปก่อนเถอะ อาจารย์สูมาแล้ว สูค่อยกินทีหลัง"
ก็มันชอบสับปะรดมากกว่ากล้วย ถ้าสับปะรดมีเท่าไรเอาหมด นอกจากไม่มีสับปะรดแล้วมันค่อยมากินกล้วย ฟาดใส่รถเต็มมา เทปั๊วะเลย ให้พวกสัตว์
ขนุนอยู่ตามริมสระข้างในครัวนั่นน่ะ มันสุกมันแก่ที่ไหนให้ตัดกันลงไปเลี้ยงกัน ๆ ทางโน้น ไม่จำเป็นต้องส่งมานี้ อยู่ทางนี้เราก็แจกกระรอก กระแต อยู่ทางนี้ให้กระรอกกระแต ทางโน้นให้ทางโน้น มันสุกที่ไหน ๆ ตัดออกมา ๆ เอาไปเลี้ยงกัน วัดนี้เหลือเฟือ ผลไม้ขนุนมีอยู่ทั่วไปสำหรับกระรอก"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2024 เมื่อ 19:43
|