มีหลายท่านที่เรียกร้องว่า "ทำบุญแล้วทำไมบุญไม่ช่วยเลย ?" กระผม/อาตมภาพอยากจะถามกลับไปว่า "แน่ใจแล้วหรือว่าทำบุญพอแล้ว ?" ถ้าหากว่าวงจรชีวิตของเราเหมือนกับแก้วน้ำใบหนึ่ง ท่านทำบุญไปเพิ่งมีน้ำเปียกก้นแก้วเพียงเล็กน้อย แล้วจะนำน้ำไปใช้งาน ย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่บุคคลที่สร้างบุญอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่องกันมาชาติแล้วชาติเล่า เปรียบเสมือนกับบุคคลที่มีน้ำเต็มแก้ว สามารถที่จะใช้งานได้ทุกเวลา ต่อให้ต้องการหรือไม่ต้องการ บุญนั้นก็ย่อมส่งผลแก่ท่านเอง
สมดังที่หลวงปู่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ญาโณทยมหาเถร) วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร หลวงปู่อดีตสมเด็จพระสังฆราชได้กล่าวเอาไว้ว่า "ตราบใดที่เรายังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ การสร้างบุญยังเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก เหตุเพราะว่าบุญนั้นส่งผลแก่ในด้านดีแก่เราโดยด้านเดียวเท่านั้น"
เรื่องของ "หม่าม้า" จึงเป็นเรื่องที่พวกเราทั้งหลายต้องยึดถือไว้เป็นแบบอย่างว่า บุคคลที่ทำบุญจนกระทั่งบุญล้นแล้ว ไม่ว่าจะไปที่ไหน เรื่องของเจ้าที่เจ้าทางหรือเทวดาอารักษ์ก็ต้องอำนวยอวยชัยให้ ไม่ต้องเสียเวลาไปบนบานศาลกล่าว ไม่ต้องเสียเวลาไปร้องขอใด ๆ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ก็จะเกิดขึ้นเอง
การตรวจประเมินยกบ้านสามหมื่นขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบนั้น บ้านสามหมื่นหรือว่าวัดสามหมื่น ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่าวัดกลางธนรินทร์นั้น เป็นวัดของชุมชนชาวลาวเวียงจันทน์ ซึ่งโดนกวาดต้อนมาสมัยในหลวงรัชกาลที่ ๓ มาตั้งรกรากสืบเชื้อสายกันอยู่ ณ ที่นี้ บรรดาคุณย่าคุณยายยังพูดสำเนียงลาวเวียงจันทน์อยู่เลย เมื่อขอให้พูด ทุกคนก็สามารถที่จะพูดได้อย่างคล่องแคล่ว ยังไม่ลืมภาษาถิ่นของตนเอง
วัดกลางธนรินทร์นั้นเกิดจากพระยากลางธนรินทร์ ซึ่งเป็นเจ้าเมืองกลางในสมัยนั้น คำว่า "เมืองกลาง" ก็คือสถานที่ซึ่งทางพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ยกให้เป็นที่ตั้งชุมชนชาวลาวเวียงจันทน์หมู่นี้ แล้วก็ตั้งหัวหน้าชุมชนเป็นพระยากลางธนรินทร์ หรือที่ทุกคนเรียกกันสั้น ๆ ว่า "ท่านเจ้าคุณเมืองกลาง" เมื่อสืบสายมาจนถึงปัจจุบัน ก็ยังสามารถที่จะรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีของตนอยู่ได้เป็นอย่างดี
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2024 เมื่อ 02:31
|