วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพต้องนำผู้ป่วย คือนางสาวไพรินทร์ สุวิชชาญพันธุ์ ที่เรียกตามลูกว่า "หม่าม้า" ไปรับการรักษาจากท่านอาจารย์บ๊ะ (พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม) ที่วัดโพธิ์ลังกา เมื่อไปถึงแล้วก็ได้ทิ้ง "หม่าม้า" เอาไว้ โดยบอกว่า "ขอฝากผู้ป่วยเอาไว้ก่อน ส่วนผู้ป่วยหนักกว่าจะไปทำการตรวจประเมินหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ที่วัดสามหมื่น ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี..!"
แต่ปรากฏว่าเมื่อเดินทางไปถึง เขาไม่ได้จัดการตรวจประเมินไว้ที่วัดสามหมื่น หากแต่จัดการตรวจประเมินไว้ที่อุทยานบ้านแป้ง ซึ่งเป็นธรรมอุทยาน โดยเฉพาะในส่วนของศาลาตรวจประเมินนั้นคือ ศาลาแก้วกลางกายซึ่งติดมีเครื่องปรับอากาศทั้งหลัง..!
กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่นึกว่า คนเราบางคนช่างสร้างบุญเอาไว้ดีเหลือเกิน เนื่องเพราะว่าพอ "หม่าม้า" รักษาเสร็จแล้วก็จะมีผู้นำมาส่ง ตอนแรกยังคิดว่าต้องนั่งทนร้อนจนกว่าประเมินเสร็จ แต่ปรากฏว่าเจอศาลาปรับอากาศทั้งหลัง ตรงนี้ทำให้เห็นชัดเจนว่า ในเรื่องของบุญกุศลนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งในการนำทางชีวิตของพวกเรา บุคคลที่สร้างบุญกุศลเอาไว้จนกระทั่งบุญกุศลหนุนนำนั้นเป็นเช่นนี้เอง
ญาติโยมบางท่านอาจจะคิดว่ากระผม/อาตมภาพเพ้อเจ้อ แต่เมื่อปีที่แล้วซึ่งได้ทำการตรวจประเมินเพื่อยกหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบ ๒๒ จังหวัด เนื่องจากว่าขาดจังหวัดชลบุรีไป ๑ จังหวัด เหตุเพราะว่าต้องไปรับโล่ผู้มีอุปการคุณต่อมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จึงทำให้ขาดไป ๑ จังหวัด ทั้ง ๒๒ จังหวัดนั้น "หม่าม้า" ไปร่วมงานตรวจประเมินอยู่จังหวัดเดียว และจังหวัดนั้นก็มีศาลาปฏิบัติธรรมติดเครื่องปรับอากาศทั้งหลังเช่นกัน อีก ๒๑ จังหวัดร้อนแทบตาย..! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จะไม่เชื่อในเรื่องของบุญของกุศลก็ไม่ได้
จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และญาติโยมทั้งหลายเป็นการย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ในเรื่องของการสร้างบุญสร้างกุศลนั้น เรามีหน้าที่ทำ เรามีหน้าที่สร้าง ส่วนผลบุญจะตอบสนองหรือไม่ เราไม่มีหน้าที่ไปกังวลสนใจ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2024 เมื่อ 02:28
|