บรรดาญาติโยมต่าง ๆ นั้น ส่วนใหญ่ก็ต่อว่า "ไปถึงวัดท่าขนุนแล้ว แต่ไม่มีโอกาสที่ได้เจอหลวงพ่อเล็ก ต้องมาดักเจอกันตามงานต่าง ๆ เท่าที่พอจะหาข้อมูลได้" กระผม/อาตมภาพก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร เนื่องเพราะว่าถืองานคณะสงฆ์เป็นใหญ่ แต่ว่าหลายต่อหลายวัดถือการต้อนรับญาติโยมเป็นใหญ่ โดยที่ใช้คำว่า "อยู่เพื่อฉลองศรัทธา" แต่กระผม/อาตมภาพเห็นว่า การทำงานของตนเพื่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนานั้น สำคัญกว่าการฉลองศรัทธาญาติโยมซึ่งกำลังใจไม่เท่ากัน
บางท่านมาเพื่อให้ได้ชื่อว่ามาเท่านั้น บางท่านก็โทรศัพท์บอกว่า อยากจะมาถวายสังฆทานกับหลวงพ่อเล็ก กระผม/อาตมภาพบอกว่าสังฆทานถวายกับใครก็ได้ แต่โยมก็ยังย้ำว่าต้องถวายกับหลวงพ่อเล็กเท่านั้น ถ้าอย่างนั้นก็คงจะไม่ใช่สังฆทานแล้ว หากแต่ว่าเป็นปาฏิปุคคลิกทานต่างหาก..!
เมื่อต้อนรับญาติโยมไปได้พักใหญ่ หลวงพ่อขวัญชัยก็เมตตาเข้ามาหาเอง กระผม/อาตมภาพจึงได้ถวายไทยธรรมต่าง ๆ เพื่อร่วมงานวันเกิดของท่าน พร้อมกับปัจจัยทั้งหมดที่รับตอนนี้ แล้วหลวงพ่อขวัญชัยก็ชวนไปยังศาลาเอนกประสงค์ของท่าน
เมื่อนั่งลงแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขออนุญาตกราบในฐานะที่ท่านอายุกาลพรรษามากกว่า โดยมีหลวงพ่อเจ้าคุณสุริยันต์ (พระวชิรญาณวิศิษฏ์ วิ. - สุริยันต์ โฆสปญฺโญ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดป่ามหาชัย (พระอารามหลวง) ประธานที่พักสงฆ์พุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น) ท่านก็มาขอกราบกระผม/อาตมภาพอีกทอดหนึ่ง โดยที่บอกว่าได้กราบหลวงพ่อขวัญชัยไปแล้ว
กระผม/อาตมภาพจะขออนุญาตลากลับเลย เนื่องเพราะว่าต้องไปเตรียมตัวเพื่อตรวจประเมินยกหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบที่จังหวัดสิงห์บุรี แต่ว่าหลวงพ่อขวัญชัยท่านบอกว่าให้รอสักครู่ เพราะว่าให้ลูกศิษย์ไปนำเอาไทยธรรมมาถวาย แต่ว่าสักครู่ของหลวงพ่อนั้นค่อนข้างจะนาน..! เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ลูกศิษย์วิ่งไปตามหาเจ้าของไทยธรรม ว่าให้มาถวายกับหลวงพ่อเล็กด้วยมือของตนเอง ซึ่งการถวายไทยธรรมนั้น ความจริงกำหนดเอาไว้ตอนทุ่มครึ่ง แต่กระผม/อาตมภาพนั้นมารับไทยธรรมเอาตอนบ่าย ๒ ครึ่ง จึงทำให้ต้องรอบรรดาเจ้าภาพเป็นเวลาที่ค่อนข้างนาน
เมื่อรับไทยธรรมและร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ต้องเดินทางฝ่ารถติดกลับเข้าสู่ที่พัก โดยที่ติดตามข่าวน้ำท่วมทางภาคเหนือเป็นระยะไป ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังมีแต่ข่าวคณะสงฆ์ ทหาร ตลอดจนกระทั่งถุงยังชีพพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ไปถึง
ส่วนนายกฯ หญิงของเรา คือนางสาวแพทองธาร ชินวัตรนั้น ได้ไปเยี่ยมบุคคลผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดน่านแห่งเดียวเท่านั้น คาดว่าด้วยความที่ต้องเร่งรีบในการตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ เพื่อรอโปรดเกล้าฯ จึงทำให้ไม่มีเวลาไปดูความเดือดร้อนของชาวบ้าน ครั้นจะสั่งการลงไป คาดว่าทางหน่วยราชการต่าง ๆ ก็คงจะ "เข้าเกียร์ว่าง" ไปก่อน เนื่องเพราะว่ายังไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือว่าออกก้อย ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ชาวบ้านของเราจึงต้องมีพระเป็นที่พึ่งต่อไป
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2024 เมื่อ 03:17
|