กระผม/อาตมภาพอยากจะบอกว่า คนไทยเรานั้นได้รับการอบรมมาให้เคารพผู้ใหญ่ หรือว่าเคารพบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ดังนั้น..อะไรที่เขาว่ามาก็มักจะเชื่อเลย โดยปราศจากความยั้งคิด ถ้าเป็นในด้านพระพุทธศาสนาแล้วก็คือความเชื่อที่เป็นอธิโมกขสัทธา น้อมใจเชื่อโดยไม่มีปัญญากำกับ ถ้าอยู่ในลักษณะนี้เราก็จะโดนหลอกลวงได้ง่าย
แต่ด้วยความที่กระผม/อาตมภาพปฏิบัติธรรมมา จนกระทั่งพยายามที่จะหาข้อบกพร่องของตนเองเพื่อแก้ไขให้ดีขึ้น ในเมื่อเห็นข้อบกพร่องของตนเองก็เลยพลอยเห็นข้อบกพร่องของคนอื่นไปด้วย เมื่อเห็นข้อบกพร่องของคนอื่น ดังนั้น..ในเรื่องอื่น ๆ จึงกลายเป็นว่าเห็นข้อบกพร่องไปเช่นกัน ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงทำให้สิ่งต่าง ๆ ที่ผู้คนพยายามจะเบี่ยงประเด็นไปนั้น ไม่สามารถที่จะหลอกลวงกระผม/อาตมภาพให้หลงประเด็นตามไปด้วยได้
เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่านานไปแล้ว ท่านทั้งหลายได้ปฏิบัติธรรมไปถึงระดับหนึ่ง ท่านก็จะอยู่ในอาการเดียวกัน ก็คือสามารถที่จะรู้เท่าทันเรื่องทางโลก ๆ ได้ เพราะว่าเรื่องทางธรรมนั้นละเอียดกว่ามาก ในเมื่อเจอเรื่องที่ละเอียดกว่ามาแล้ว ในส่วนที่จะหยาบกว่าก็สามารถที่จะรู้ได้เองโดยอัตโนมัติ
หลังจากบิณฑบาตเสร็จและฉันเช้าเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพได้ขอสัตตาหะฯ ท่ามกลางสงฆ์ เพื่อไปปฏิบัติภารกิจของตน ซึ่งวันนี้ต้องนั่งรถยนต์เป็นเวลา ๖ ชั่วโมงไปยังวัดนามะตูม หมู่ที่ ๖ ตำบลนามะตูม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เพื่อไปร่วมงานอายุวัฒนมงคล ๗๓ ปี หลวงพ่อขวัญชัย (พระครูวิจิตรธรรมรัตน์) เจ้าอาวาส
เมื่อเดินทางไปถึงประมาณบ่าย ๒ โมง ทางด้านเจ้าหน้าที่จัดให้ไปพักอยู่ภายในที่พักพระเถระ แต่ว่าไม่มีการห้ามปรามไม่ให้ญาติโยมเข้าไปรบกวน จึงมีญาติโยมไหลมาเทมาที่จะร่วมทำบุญด้วย กระผม/อาตมภาพจึงต้องร้องขอกาละมังสัก ๑ ใบ เพื่อเอามาใส่ปัจจัยถวายให้กับหลวงพ่อขวัญชัยท่าน โดยที่บอกกล่าวกับญาติโยมทุกคนว่า "เงินทำบุญตรงนี้ ขออนุญาตร่วมบุญทุกอย่างกับหลวงพ่อขวัญชัยในวันนี้ด้วย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2024 เมื่อ 03:13
|