พอดี "ท่านเจ้าคุณอาจารย์" พระเดชพระคุณพระเทพปวรเมธี, รศ. ดร. (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรํสี ป.ธ.๙) รองเจ้าคณะภาค ๑๕ ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) หนกลางมาถึง จึงรอจนท่านเจ้าคุณอาจารย์ทำการฉันเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เข้าไปยังสถานที่สำคัญอันเป็นจุดเด่นของวัดอีกแห่งหนึ่ง ก็คือพระมหาเจดีย์เมตตารัตนรังษี ซึ่งสร้างอยู่ในสไตล์ศิลปะขอมปนกับศิลปะพุกาม ก็คือทรงเจดีย์นั้น แม้ว่าจะสร้างขึ้นเป็นทรงเจดีย์แบบล้านนาเก่า แต่ว่าวัสดุดูแล้วเหมือนกับเป็นศิลาแลงแบบปราสาทขอม ขณะเดียวกันบรรดาซุ้มจระนำต่าง ๆ นั้นเป็นศิลปะพุกามแบบเห็นได้ชัด
ตอนแรกกระผม/อาตมภาพก็ยังคิดว่าเราน่าจะดูผิด แต่พอเข้าไปภายในพระมหาเจดีย์แล้ว เห็นเจดีย์หินอ่อนบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และมีพระหินอ่อน ๘ ทิศ ก็จำได้ทันทีว่านี่เป็นการจำลองแบบมาจากภายในพระมหาเจดีย์มหาวิสะยะที่กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า ชนิดที่ถอดมาทุกกระเบียดเลย..!
ครั้นได้เจริญพระพุทธมนต์ถวายและถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกแล้ว ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระเทพปวรเมธี, รศ. ดร. ก็ได้พาพวกเราเดินชมนิทรรศการอย่างเป็นทางการ ทำเอาบรรดาคณะกรรมการต้องควักกระเป๋ากันอีก ๑ รอบ..!
เมื่อมาถึงสถานที่ถ่ายรูป บรรดาข้าราชการต่าง ๆ ขอโอกาสถ่ายรูปร่วมกับคณะกรรมการตรวจประเมิน แล้วก็มีการแสดงของบรรดาเด็ก ๆ ไม่ว่าจากโรงเรียนบ้านห้วยแก้วก็ดี โรงเรียนบ้านหนองกระเบียนก็ดี จัดใหญ่จัดเต็มมา ไม่ว่าจะเป็นชุดเต้นกำรำเคียว ชุดรำกลองยาว ตลอดจนกระทั่งชุดฟ้อนนางอัปสรา
ปรากฏว่าท่านเจ้าคุณโม่ง - พระราชวชิรมงคลวิสิฐ (อาทิตย์ สิริวฑฺฒโน) เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี หนึ่งในคณะกรรมการ ไปซุบซิบกับท่านเจ้าคุณตี๋ (พระกิตติวชิรธาดา) วัดราษฎร์ประคองธรรม เจ้าคณะอำเภอบางใหญ่ ดร.พระครูทวี - พระครูศรีรัตนาภิวัฒน์, ดร. (ทวี รตนเมธี ป.ธ.๖) เจ้าอาวาสวัดพระลอย รองเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี และมหาประกอบ - พระมหาประกอบ โชติปุญฺโญ ป.ธ.๗ รองเจ้าคณะจังหวัดราชบุรี เจ้าอาวาสวัดโชติทายการาม มีการควักซองใส่สตางค์ขึ้นมา ในลักษณะ "ลงขัน" เพื่อแจกรางวัลให้กับเด็ก ๆ
เนื่องจากว่าเด็กทั้งหมดมากันเยอะมาก เมื่อรวมการแสดงทุกชุดแล้ว กระผม/อาตมภาพถ้านับไม่ผิดมีถึง ๓๓ คน ต่อให้แจกคนละ ๑๐๐ บาท ก็ต้องหมดถึง ๓,๐๐๐ กว่าบาท และโดยเฉพาะแต่ละคนก็ไม่ได้มีธนบัตรใบละร้อยพกไปเป็นปึก ๆ เหมือนกับกระผม/อาตมภาพ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2024 เมื่อ 01:02
|