ดูแบบคำตอบเดียว
  #736  
เก่า 21-08-2024, 21:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,439 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สงเคราะห์สัตว์

องค์หลวงตาสอนเสมอ ให้พระเณรฆราวาสลูกศิษย์ลูกหาสงเคราะห์ช่วยเหลือสัตว์ รู้จักมีความเมตตาสงสาร เห็นสัตว์ทั้งหลายเป็นเพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน ดังนี้

"ชาติชั้นวรรณะไม่มี ลงในคำเดียวว่า สัพเพ สัตตา อันว่าสัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น ครอบหมดเลย เสมอภาคเลย เห็นอกเห็นใจกันทั่วทั้งหมดเลย นี่ละ..ธรรมพระพุทธเจ้า..ฟังเอาซิ

คือสัตว์ทุกตัวเกิดมาได้ด้วยอำนาจของกรรมทั้งนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นมาด้วยอำนาจของชั้นวรรณะยศถาบรรดาศักดิ์อะไร เกิดขึ้นมาด้วยอำนาจของกรรม กรรมเป็นพื้นฐานให้เกิด นอกนั้นก็แตกเป็นแขนงออกไป สุจริตบ้าง ทุจริตบ้าง แล้วแต่จะเกิด นั่นเป็นเรื่องนอกต่างหาก หลักของกรรมเป็นหลักใหญ่

เพราะฉะนั้น..ท่านจึงไม่ให้ดูถูกเหยียดหยามกัน แม้แต่สัตว์เดรัจฉาน ท่านก็ไม่ให้ดูถูกเขา เวลานี้เขาเสวยกรรม อยู่ในวาระของกรรมของเขาอย่างนั้น ๆ เป็นชั้น ๆ ไปเลย ท่านจึงไม่ให้ประมาท มันเป็นวาระ เวลาพ้นแล้วเขาสูงกว่าเราก็ได้ ก็เหมือนอย่างคนขึ้นมาจากน้ำ จากหลุมจากบ่อขึ้นภูเขา ทีแรกก็อยู่ใต้ก้นบ่อ พอขึ้นมาแล้วเขาขึ้นภูเขาสูงกว่าเราอีก กรรมไม่แน่นอน แล้วแต่สร้างของใครเอาไว้

"เขาก็รักสุข เกลียดทุกข์ มีหิวมีอิ่ม มีเจ็บป่วย มีราคะตัณหา มีจิตวิญญาณเช่นเดียวกับมนุษย์เรา ตัวจิตนี้เองเป็นตัวพาท่องเที่ยว ให้เราไปเวียนว่ายตายเกิด เพราะนี่ขึ้นอยู่กับวาระของกรรม ที่ให้เสวยผลดีชั่วอย่างไรตามวาระที่เราสร้างกรรมมา จึงไม่ควรประมาทเขา ไม่ควรเบียดเบียน ไม่ควรรังแก และไม่ควรฆ่าเขา การเบียดเบียนเขาก็คือเบียดเบียนตัวเรานั่นเอง"


ด้วยความเมตตาอันยิ่งใหญ่ไม่มีประมาณขององค์หลวงตาเช่นนี้ จึงปรากฎเป็นรูปธรรม สังเกตจากกิจวัตรหลักอันหนึ่งขององค์ท่าน ซึ่งพระเณรลูกศิษย์ลูกหาทุกจังหวัดทั่วประเทศเห็นตรงกันก็คือ ไม่ว่าองค์ท่านมีโอกาสเดินทางไปยังสถานที่ใด องค์ท่านจะต้องจัดหาอาหารสด อาหารแห้ง ไปแจกจ่ายเป็นทานแก่สัตว์ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงหรือจังหวัดใกล้เคียง

อาทิ ให้อาหารปลาที่วัดหงษ์ปทุมาวาส ปทุมธานี วัดไร่ขิง นครปฐม สวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์เขาเขียว ช้างที่อยุธยา ช้างที่ลำปาง ลิงที่ลพบุรี และกุมภวาปี ฟาร์มจระเข้ที่นครปฐมและสมุทรปราการ นกเป็ดน้ำที่วัดต่าง ๆ เสือที่กาญจนบุรี (วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) ตลอดจนที่อื่น ๆ อีกจำนวนมาก

ชนิดของสัตว์ที่ให้การสงเคราะห์ก็มีหลายประเภท เช่น สุนัข ปลา จระเข้ เสือ เก้ง กวาง ชะนี ลิง ไก่ป่า กระรอก กระแต กระต่าย หมูป่า รวมถึงสัตว์ที่อยู่ตามห้วยหนองคลองบึงทั่วไป ตลอดจนในสวนสัตว์หลายแห่ง ขอยกตัวอย่างความเมตตาในเรื่องนี้มาเพียง ๒ เรื่องสั้น ๆ ซึ่งเป็นเหตุการณ์เมื่อครั้งอดีต และในช่วงบั้นปลายชีวิตก่อนมรณภาพเล็กน้อย เพื่อแสดงถึงความเมตตาที่คงเส้นคงวา ต่อเนื่องไม่ผันแปรตลอดไป ดังนี้


"(เมื่อครั้งอดีต) ไปจังหวัดเชียงใหม่ ไปถึงจังหวัดพะเยา รถก็ไปเสียอยู่ตรงนั้น มีหมาตัวหนึ่งมันมาป้วนเปี้ยน ๆ มันไปสัมผัสก็ต้องพูด ถ้าไม่สัมผัสก็ไม่พูด มันไปป้วนเปี้ยน ๆ หากินตามนั้น พอเห็นมันแล้วดูท้องมันด้วย ท้องก็รู้สึกว่าแฟบไม่ป่องเลย กำลังหิว เห็นมันมาดมนั้นดมนี้เลียบ ๆ คน รถเราก็เสียที่นั่นพอดีเราก็ลงรถ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2024 เมื่อ 01:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 9 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กมลโกศลจิต​ (22-08-2024), ชุณหพงศ์ (22-08-2024), ต้นบุญ (22-08-2024), ปราโมทย์ (23-08-2024), พี่เสือ (23-08-2024), พุทธภูมิ (21-08-2024), มารวย๙ (22-08-2024), สุธรรม (22-08-2024)