ครั้นปิดการประชุมประเมินแล้ว ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ก็คือท่านพิริยะ ฉันทดิลก ได้ทำการประเคนของที่ระลึกให้กรรมการทีละคน เมื่อมาถึงตรงหน้าก็ถามว่า "หลวงอาจำผมได้ไหมครับ ?" กระผม/อาตมภาพต้องรีบเพ่งมอง แล้วก็นั่งหัวเราะกันเป็นการใหญ่ "เฮ้ย..นี่หลานฉันเองนี่หว่า..!" ท่านบอกว่า "ใช่ครับ" กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่หัวเราะ หลวงอาผู้เป็นพระภิกษุชรา จำไม่ได้แม้กระทั่งหลานของตนเอง..! เพียงแต่สงสัยว่าทำไมนามสกุลถึงคุ้นหูนัก ปรากฏว่าตอนนี้รุ่นหลานมาถึงระดับผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว ถ้าหากว่าเป็นในทางโลก ๆ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในชีวิตเป็นอย่างยิ่ง
ในขณะที่คนอื่นไปเข้าโต๊ะเพื่อที่จะฉันเพล กระผม/อาตมภาพจึงได้ถ่ายภาพร่วมกับท่านผู้ว่าพิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง แล้วก็ส่งไปให้บรรดาญาติโยมที่คุ้นเคยกับตระกูลของกระผม/อาตมภาพดูกัน กระผม/อาตมภาพเคยบอกกล่าวเป็นนัย ๆ อยู่หลายหนแล้วว่า ตนเองหนีมาบวช เพราะว่าขี้เกียจเลี้ยงหลาน เนื่องเพราะว่าบรรดาพี่ ๆ หาหลานมาให้ถึง ๓๒ คน..! ปรากฏว่ามีทั้งหลานนอกและหลานใน ซึ่งตามภาษาจีนนั้นก็คือลูกของผู้ชาย และลูกของผู้หญิง ถ้าหากว่าเป็นลูกของผู้ชาย เขาเรียกว่าหลานใน ถ้าเป็นลูกของผู้หญิง เขาเรียกว่าหลานนอก เหล่านี้เป็นต้น นี่เป็นคำอธิบายแบบคร่าว ๆ เท่านั้น ไม่ต้องเสียเวลามาเถียงกัน
กระผม/อาตมภาพก็ไม่นึกเหมือนกันว่าจะมาเจอหลานของตนเองเข้าที่นี่ ยังโชคดีที่มานึกออกและจดจำได้ก็ตอนที่ปิดการประเมินไปแล้ว ไม่สามารถที่จะเพิ่มคะแนนได้ เมื่อหันไปบอกกรรมการท่านอื่น ทุกคนก็หัวเราะกันด้วยความขบขัน เรื่อง "จุดไต้ตำตอ" เหล่านี้มักจะมีมาเป็นระยะ ๆ เพราะว่าบรรดาผู้ที่เด็กกว่าก็ย่อมจดจำคนแก่ได้มากกว่า แต่ว่าคนแก่จะให้จำลูกหลานที่มีมากขึ้นทุกที ๆ ก็ไม่ไหว
โดยเฉพาะกระผม/อาตมภาพนั้น รุ่นหลานหาเหลนมาให้มากมายมหาศาล ในปัจจุบันนี้รุ่นเหลนก็เริ่มหาโหลนมาให้แล้ว ซึ่งคำว่าโหลนนั้นไม่มีอยู่ในการสืบสาแหรกตระกูลของคนไทย แต่ด้วยความที่พวกเราเคยชินกับคำว่าลูกหลานเหลนโหลน กระผม/อาตมภาพก็เลยใช้ตามที่เคยชิน เพื่อที่ท่านทั้งหลายจะได้เข้าใจว่า ถ้าหากว่าตามศักดิ์ในตระกูลแล้ว กระผม/อาตมภาพจัดอยู่ในระดับทวดหรือเทียดไปแล้ว..! ซึ่งไม่นึกเหมือนกันว่าจะอยู่มาจนกระทั่งมีลูกหลานเหลนโหลนมากมายขนาดนี้ นับว่าไม่เสียทีที่อายุยืนที่สุดในรอบหลาย ๆ ชาติที่ผ่านมา..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2024 เมื่อ 01:57
|