วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปถึงวัดสระแก้ว ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ตั้งแต่ ๗ โมงครึ่ง กราบเท้าหลวงปู่ท่านเจ้าคุณพระวชิรสิกขการ, ดร. (ไพเราะ ฐิตสีโล ป.ธ. ๔) เพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ ๕๑ โดยที่พระซึ่งติดต่อประสานงาน ท่านเมตตาแนะนำหลวงปู่ว่ากระผม/อาตมภาพนั้นเป็นใคร เลยทำเอาทุกฝ่ายได้หัวเราะกันยกใหญ่ เนื่องเพราะว่าพวกเรานั้นรู้จักสนิทสนมกันมากกว่าที่ท่านคิด
โดยเฉพาะกระผม/อาตมภาพนั้นเป็นประธานรุ่นพระอุปัชฌาย์ ๕๑ โดยมีหลวงปู่เจ้าคุณซึ่งตอนนั้นเป็นพระครูปลัดสุวัฒนบัณฑิตคุณ ท่านเป็นหนึ่งในองค์กรพระอุปัชฌาย์นั้น กระผม/อาตมภาพจึงได้คุยทับไปว่า "ผมเป็นเจ้านาย หลวงปู่เป็นลูกน้องผมเอง" หลวงปู่ท่านก็เล่นด้วย บอกว่า "ยอม ๆ ๆ เรื่องนี้ไม่รู้ว่าจะแก้ตัวอย่างไร เพราะว่าท่านเป็นประธานรุ่นจริง ๆ"
กระผม/อาตมภาพนั้นเคยมาช่วยหลวงปู่เจ้าคุณท่านในการเลี้ยงเด็ก เนื่องเพราะว่าวัดสระแก้วนั้นได้ทำการรับเด็กกำพร้ามาเลี้ยงเอาไว้ถึง ๒,๐๐๐ กว่าคน และส่งให้เรียนหนังสือทุกคน กระผม/อาตมภาพถวายปัจจัยให้หลวงปู่เจ้าคุณไพเราะท่าน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ปรากฏว่าพอเป็นค่าข้าวสารสำหรับเด็ก ๆ แค่เดือนเดียวเท่านั้น..! แต่วันนี้เมื่อได้ยินเด็ก ๆ รายงานว่า "ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานค่าอาหารให้ทุกเดือน จากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว" กระผม/อาตมภาพก็เบาใจแทนหลวงปู่เจ้าคุณ
พระเดชพระคุณหลวงปู่เจ้าคุณไพเราะนั้น ท่านเป็นบุคลากรสำคัญของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมานานถึง ๔๐ กว่าปี ในสมัยนั้นท่านก็คือพระมหาไพเราะ ฐิตสีโล ในเมื่อวัดสระแก้วได้สิ้นหลวงพ่อฉบับ ขนฺติโก (พระครูขันตยาภิวัฒน์) ผู้นำเอาเด็กกำพร้ามาเลี้ยงและส่งให้เรียนหนังสือ ตลอดจนกระทั่งประกอบสัมมาอาชีพเป็นที่เลื่องลือไปทั้งประเทศไทย
โดยเฉพาะลูกศิษย์ของท่านซึ่งเล่นลิเกและร้องเพลงจนโด่งดังก็คือไชยา มิตรไชย นั่นก็เป็นเด็กกำพร้าจากวัดสระแก้วนี่เอง สิ้นหลวงพ่อฉบับแล้ว ทางคณะสงฆ์จึงได้ส่งหลวงปู่พระมหาไพเราะ ฐิตสีโล มาเป็นเจ้าอาวาสวัดสระแก้วต่อจากหลวงพ่อฉบับ แล้วหลวงปู่ท่านก็สืบสานปณิธานเลี้ยงดูเด็ก ๆ สืบมา
ครั้นเมื่อท่านได้เป็นเจ้าคณะอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ก็ต้องไปอบรมพระอุปัชฌาย์ กระผม/อาตมภาจึงได้มีวาสนาเป็นพระอุปัชฌาย์รุ่นเดียวกับหลวงปู่ ท่านเองก็ยังปรารภว่า "พวกคุณโชคดีมาก ทำบุญไว้ดี ได้เป็นเจ้าอาวาส ได้เป็นพระอุปัชฌาย์กันตั้งแต่อายุยังน้อย กระผมเองมาเป็นเอาตอนอายุ ๗๐ กว่าเข้าไปแล้ว..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2024 เมื่อ 01:43
|