พลิกชีวิตแม่ลูกในกรุงเทพฯ ผู้ถูกดูแคลน
"ผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ ทุกข์..จนมาก นี่ก็อันหนึ่งของแกเหมือนกัน ไปที่ไหนเขาเบ้ปากเลย เขาไม่อยากให้เข้าไปหน้าร้านเขาเลย เขามาพูดให้ฟัง ไม่ใช่เราเอาคำพูดสุ่มสี่สุ่มห้ามาเล่า ตอนเขาจน
"เวลามองเห็นเขากินข้าว โฮ้..น้ำลายไหล มองหาอะไรที่จะกินก็ไม่มี ความจนก็จน ความหิวก็หิว แม่ก็จะตาย ลูกก็จะตาย" เขาเล่าให้ฟัง
ทีแรกออกทางหนังสือพิมพ์ก่อนเรื่องผู้หญิงคนนี้ จากนั้นเราก็สืบเสาะไปจนกระทั่งถึงตัว ให้นักหนังสือพิมพ์นักข่าวไปติดต่อให้จนกระทั่งถึงตัว แล้วได้ตัวมาคุยกัน พูดตามความสัตย์ความจริง ทั้งพูดทั้งน้ำตาร่วง พูดตามความเป็นจริง นั่นละ..เวลาแกเสวยกรรมของแกก็เป็นอย่างนั้น
ไปที่ไหนเขาเบ้ปากเลย เขาถ่มน้ำลาย เขาไม่ให้เข้าร้านเขา เขาดูถูก เขามาเล่าให้ฟัง เราก็สงสาร เลยช่วยเลยแหละ ซื้อบ้านให้ทั้งหลังเลย บ้านราคากี่แสน ขัดข้องอะไรให้หมดเลย ผึงผังดีดขึ้นเลย
ทีนี้ร้านที่เบ้ปากก็มาประจบประแจง มาเลียแข้งเลียขาแก เห็นว่าแกมีฐานะ อย่างนั้นซี..เวลานั้นก็บุกใส่เขา ถ่มน้ำลายใส่เขา ทีนี้ก็มาเลียแข้งเลียขา นี่เห็นไหม ? โลกสกปรก เห็นเขาอยู่ในสภาพนั้นก็เหยียบย่ำลงไปอีกนะ แทนที่จะยอเขาขึ้นด้วยความเมตตาสงสาร เขากลับเหยียบย่ำลงไปอีก ทีนี้เวลาเห็นเขาดีขึ้นมาแล้ว มาประจบประแจงเลียแข้งเลียขาอีก นี่..เขาก็มาพูดให้ฟัง เห็นประจักษ์อย่างนี้เอง
เราช่วยจริง ๆ ช่วยจนฟื้นได้เลย ร้านขายของก็ซื้อให้ เป็นร้านที่ขายของดี เขาจะเซ้งก็ซื้อให้เลย เขาก็เข้าทำหน้าที่แม่ค้าใหญ่ตรงนั้นเลยเทียว บ้านซื้อให้ราคาหลายแสน ได้ฟังสภาพอย่างนั้นแล้วสงสาร เราช่วยทันทีเลย แล้วพวกที่เบ้ปากถ่มน้ำลายใส่เขา กลับมาประจบประแจงเลียแข้งเลียขาแก
เห็นไหม..ความหยาบของคน ? มันหยาบทั้งสองด้าน เวลาบ้วนน้ำลายใส่เขา เบ้ปากใส่เขา ก็เป็นต่ำประเภทหนึ่ง ทีนี้มาประจบประแจงเขาอีกก็ต่ำอีกประเภทหนึ่ง นี่ละ..อย่างนี้..เราช่วยโลก เวลามาสัมผัสเราก็พูด ที่ไม่พูดมากกว่านี้นะ ทำนองเดียวกันนี้มีเยอะ.."
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2024 เมื่อ 02:43
|