วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เป็นวันจันทร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๙ ถ้าทั่วไปแถวนี้เขาเรียกกันว่าสารทลาว ปกติแล้วถ้าหากว่าเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๙ ตามจันทรคติของไทย ก็จะตรงกับสารทจีนด้วย เพียงแต่ว่าสารทจีนปีนี้เร็วกว่าสารทลาวไป ๑ วัน
โดยเฉพาะปฏิทินจันทรคติของจีนนั้นจะเดินช้ากว่าไทยอยู่ ๒ เดือน ดังนั้น..สารทจีนจึงเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ แต่ตรงกับขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๙ ของไทยบ้าง ก่อนวันหนึ่งบ้าง หลังวันหนึ่งบ้าง ส่วนสารทไทยนั้นต้องรออีก ๑ เดือน เนื่องเพราะว่าสารทไทยนั้นจะตรงกับสิ้นเดือน ๑๐ ก็คงประมาณเดือนครึ่ง ไม่ใช่ ๑ เดือน
คราวนี้ที่กล่าวถึงตรงนี้ก็เพราะว่า พระภิกษุของเราจำพรรษามา ๑ เดือนแล้ว เราต้องถามตัวเองว่า ๑ เดือนที่ผ่านมาเราได้อะไรบ้างหรือยัง ? เวลาทำวัตร เราก็มีการพิจารณาอยู่บ่อย ๆ ว่า "วันคืนล่วงไป ๆ เราทั้งหลายทำอะไรกันอยู่ ?" "ตัวเรามีคุณวิเศษบ้างหรือไม่ ? เพื่อที่จะไม่เก้อเขินเมื่อเพื่อนสหธรรมิกไต่ถาม"
เรื่องพวกนี้ถ้าว่าไปแล้วในที่อื่นจะเป็นเรื่องยาก เนื่องเพราะว่าการไปปฏิบัติกรรมฐานนั้นกลายเป็นแปลกแยกจากสังคม เพราะว่าวัดส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้ ถ้าไม่ไปเน้นในเรื่องการเรียนพระปริยัติธรรมก็ไม่เอาอะไรเลย..!
ในเมื่อวัดท่าขนุนของเราเน้นในเรื่องของการปฏิบัติธรรมด้วย เราทั้งหลายก็อย่าได้ปล่อยเวลาให้ล่วงไปเปล่า ๆ เนื่องเพราะว่าทุกลมหายใจของเรานั้นก็คือความตายที่รออยู่ หายใจเข้าไม่หายใจออกก็ตายแล้ว หายใจออกไม่หายใจเข้าก็ตายอีกเช่นกัน..!
แล้วปัจจุบันนี้ยังมีความรู้ผิด ๆ พลาด ๆ ที่บรรดาผู้ที่คิดว่าตนเองรู้ นำมาสั่งสอนอีกต่างหาก ถ้าเราพลาดไปเชื่อเข้าก็จะหลงทางออกจากความดีไปเลย อย่างที่มีพระมหาท่านหนึ่งวางตัวเป็นผู้รู้ในด้านพระพุทธศาสนา มีผู้ถามว่า "ถ้าพระอุปัชฌาย์ต้องอาบัติปาราชิก การบวชพระจะเป็นพระหรือไม่ ?"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2024 เมื่อ 02:45
|