คราวนี้ถ้าหากว่าเราทำใจได้ ปล่อยวางได้ สิ่งที่เราประพฤติปฏิบัติธรรมมา แปลว่า "มีผลอย่างที่เราต้องการ" ก็คือในเรื่องของการปฏิบัติธรรม ต้องมีการทดสอบกับของจริงเท่านั้น ไม่อย่างนั้นแล้วเราจะไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่า สิ่งที่เราทำไปนั้น เวลาเจอการทดสอบจริง ๆ แล้วจะเป็นอย่างไร ดังนั้น..นักปฏิบัติธรรมหลายท่าน ถ้าหากว่าอยู่ในป่าช้า อยู่ในป่าชัฏ ออกธุดงค์ ภาวนาแล้วจิตใจสงบดีมาก แค่ก้าวเข้ามาในเขตบ้านเขตเมืองเท่านั้นก็แกว่งไม่เป็นท่าแล้ว เนื่องเพราะว่าเจอแรงกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบด้าน..!
บุคคลใดถ้าหากว่าอยู่กับผู้คนแล้ว สามารถที่จะรักษากำลังใจให้สงบระงับได้ นั่นถึงจะเรียกว่าของแท้ เพราะว่าผ่านการพิสูจน์ด้วยบทเรียนต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา ถ้าหากว่าเราปลีกตัวออกจากสังคม แล้วไปประพฤติปฏิบัติอยู่คนเดียว ถ้าไม่ใช่เข้าถึงมรรคถึงผลอย่างแท้จริง ยังจัดอยู่ในระดับโลกิยฌานแล้ว กระทบเมื่อไรก็พังเมื่อนั้น จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องระมัดระวังตัวเองเป็นอย่างสูง
เนื่องเพราะว่าฌานโลกีย์นั้น ถ้าหากว่าทรงตัวมั่นคงจริง ๆ กิเลสต่าง ๆ จะโดนกดให้ดับลงชั่วคราว ทำให้มีคนหลงเข้าใจผิดว่าตนเองเป็นพระอรหันต์ไปแล้วมากต่อมากด้วยกัน แม้กระทั่งเด็กที่กระผม/อาตมภาพดูแลอยู่ ก็ยังมา "เถียงคำไม่ตกฟาก" "หลวงพ่อบอกว่าถ้าหากว่าเป็นพระอรหันต์จะต้องตายภายใน ๗ วัน นี่หนูอยู่มาตั้งหลายเดือนแล้วไม่เห็นจะตายเลย..!" ปัจจุบันนี้ไอ้คนเถียงมีลูกไป ๕ คนแล้ว..!
นั่นก็คือพระอรหันต์ที่เข้าใจผิด เพราะว่าตัวเองกิเลสสงบระงับด้วยกำลังของสมาธิ แล้วไปคิดว่าใช่ กำลังสมาธิที่เข้มข้นจริง ๆ ระดับฌาน ๔ หรือว่าสมาบัติ ๘ สามารถกดกิเลสให้ดับลงอย่างชนิดที่เหมือนกับหมดเชื้อ แต่ความจริงแล้วไม่หมด เหมือนกับหินที่ทับหญ้าเอาไว้ ถึงเวลาขยับเขยื้อนหินออกเมื่อไร หญ้าก็งอกงามใหม่
แล้วคนอีกจำนวนมากด้วยกัน ที่เมื่อเข้าถึงสมาธิแล้วก็ไปติดอยู่แค่ตรงนั้น เพราะว่ากำลังใจที่ปราศจาก รัก โลภ โกรธ หลง ชั่วคราวนั้น มีความสุขเยือกเย็นจนบอกไม่ถูก ปฏิบัติเมื่อไรก็ต้องการอยู่แค่นั้น จึงทำให้บุคคลจำนวนหนึ่งที่นำไปกล่าวว่า สมาธิทำให้ขี้เกียจและหลงยึดติดอยู่ในนั้น ก็แปลว่า ของดีไม่ได้ดีสำหรับทุกคน
แต่ว่าดีสำหรับคนที่ใช้ถูกต้อง ก็คือเมื่อกดกิเลสให้สงบระงับลงได้แล้ว เราต้องรีบพิจารณาวิปัสสนาญาณต่อไปเลย อาศัยกำลังของสมาธิในการช่วยตัดละ ถ้าหากว่ากำลังพอเพียง ก็จะตัดละได้ตามวาสนาบารมีของตนเอง ถ้ากำลังไม่พอเพียงก็เป็นแค่หินทับหญ้าอยู่ต่อไป เจอแรงกระทบขยับเขยื้อนออกจากจุดเดิมเมื่อไร กิเลสก็งอกงามใหม่ทันที..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2024 เมื่อ 02:08
|