ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 11-08-2024, 00:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นเมื่อตรวจงานเสร็จสรรพเรียบร้อย ชี้จุดบกพร่องและสิ่งที่ควรกระทำแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เข้าสู่ที่พักกุฏิริมป่าช้า แต่ปรากฏว่ามาเจอเนื้อหาของผู้ที่กล่าวถึงธรรมะอีกแล้วว่า "มหาสติปัฏฐานสูตรนั้น เป็นหนทางเดียวที่จะนำสัตว์ทั้งปวงเข้าสู่ความบริสุทธิ์ อย่างอื่นไม่ใช่"

กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่ถอนใจ เนื่องเพราะคำว่า เอกะอายนะ ซึ่งพอถึงเวลาเข้าวิภัตติไปแล้ว กลายเป็นบาลีว่า เอกายโน อะยัง ภิกขเว มัคโค สัตตานัง วิสุทธิยา คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี่เป็นหนทางหนึ่งซึ่งจะนำสัตว์ทั้งหลายเข้าสู่ความบริสุทธิ์

ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสามเณรของเรา หรือว่าญาติโยมทั้งหลายก็ตาม ต้องเข้าใจว่าภาษาบาลีนั้นไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ของเรา ถ้าหากว่าท่านตีความผิดแม้แต่นิดเดียว สิ่งที่จะได้ หรือว่าจะมี หรือว่าจะเข้าใจ จากบาลีคำนั้น ก็อาจจะผิดเพี้ยนไปไกล

เราเข้าใจแค่ว่า เอกะคือหนึ่ง อายนะคือทาง เมื่อมารวมกันเป็นเอกายนะตามหลักการสนธิของบาลีแล้ว ก็ควรที่จะแปลว่า หนทางสายหนึ่ง ไม่ใช่หนทางสายเดียว
ถ้าเป็นหนทางสายเดียว แล้วองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะแสดงพระธรรมเทศนาไว้ถึง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ไปทำอะไร ?

แม้แต่ชาดกที่ท่านทั้งหลายเห็นว่าเป็นนิทาน ถ้าหากว่าบุคคลผู้มีปัญญาก็จะเห็นว่า แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เลิศแล้วด้วยประการทั้งปวง ก็ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดเป็นชาติโน้นบ้าง ชาตินี้บ้างไม่รู้จบ แล้วตัวเราที่ไม่มีความสามารถเลิศฟ้าขนาดพระองค์ท่าน จะรอดไปได้อย่างไร ? ก็จะเกิดความเบื่อหน่ายคลายกำหนัด ถอนจิตจากความยึดมั่นถือมั่น

เนื่องเพราะว่าแม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังต้องเป็นอย่างนั้น ขึ้นชื่อว่าเราจะไม่เป็นนั้นไม่มี เมื่อถอนจิตจากการยึดมั่นถือมั่นมา ก็ขึ้นอยู่กับบุญกุศลเดิม และดวงปัญญาแห่งตนในขณะนั้นว่า จะสามารถเข้าถึงมรรคถึงผลในระดับไหน ไม่ว่าจะเป็นพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี หรือว่าพระอรหันต์


แม้แต่ในมหาสติปัฏฐานสูตรเองที่ประกอบไปด้วยตอน ที่ภาษาบาลีใช้คำว่าปัพพะ ซึ่งทุกปัพพะนั้น ถ้าหากว่าท่านตั้งใจปฏิบัติก็เข้าถึงมรรคถึงผลได้ทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องศึกษาครบถ้วนสมบูรณ์ทุกขั้นตอนก็ได้ เนื่องเพราะว่าทุกตอนหรือว่าทุกปัพพะนั้น พระองค์ท่านจะปิดท้ายด้วยคำว่า นะ จะ กิญจิโลเก อุปาทิยะติ คือเราจักไม่ยึดถืออะไร ๆ ในโลกนี้ ในเมื่อไม่ยึดถือ สามารถปล่อยวางได้หมด การที่ท่านทั้งหลายจะเข้าถึงมรรคถึงผลก็ย่อมเป็นไปได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2024 เมื่อ 03:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา