องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้ประทานหลักธรรมต่าง ๆ ให้ประกอบกับการเมือง ถ้าหากว่าเป็นระบอบประชาธิปไตยก็ต้องมีอปริหานิยธรรมทั้ง ๗ ถ้าหากว่าเป็นระบอบกษัตริย์ ก็ต้องมีทศพิศราชธรรม ถ้าหากว่าเป็นระบอบพระเจ้าจักรพรรดิก็ต้องมีจักรวรรดิวัตร เป็นต้น
เนื่องเพราะว่าบุคคลนั้นย่อมมี รัก โลภ โกรธ หลง เป็นปกติ ในเมื่อมีรัก โลภ โกรธ หลง ถ้าไม่มีหลักธรรมคอยประคองเอาไว้ ก็จะทำสิ่งต่าง ๆ ไปตามอำนาจกิเลสที่ชักจูงตน โดยเฉพาะการบ้าอำนาจอย่างหนึ่ง การหลงลืมว่าตัวเราเองนั้นขึ้นไปสู่ที่สูงได้ ก็เพราะว่ามีประชาชนคอยสนับสนุน
เราต้องนึกอยู่เสมอว่า นักการเมืองเหมือนกับเรือ ประชาชนเหมือนกับน้ำ น้ำสามารถพยุงเรือให้ลอยสูงได้ แต่ก็สามารถล่มเรือได้เช่นกัน ถ้านึกอยู่อย่างนั้น เราก็จะไม่ประมาท กระทำสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นไปในกรอบของกฎหมายและศีลธรรม แต่ถ้าหากว่าขาดสติ โลภในลาภ บ้าอำนาจ ไม่สนใจหรือว่าเห็นหัวประชาชนเมื่อไร ท่านทั้งหลายก็จะเดือดร้อนเองทีหลัง
บุคคลที่เดือดร้อนระดับไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ก็มีให้เห็นมามากต่อมากด้วยกันแล้ว หลายท่านก็ถึงขนาดต้องไปตายในต่างแดน ไม่ได้มีโอกาสกลับมาเหยียบเมืองไทยเลยก็มี
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2024 เมื่อ 15:33
|