คราวนี้การที่เราภาวนาอยู่ตลอดเวลาก็จะทำให้สติของเราจดจ่อไม่เคลื่อนไปไหน ถ้าจิตไม่เคลื่อนออกนอก รัก โลภ โกรธ หลง ก็ไม่สามารถที่จะทำอันตรายเราได้ การที่จะ "ไปไล่งับหัวชาวบ้าน" อย่าง "ไอ้ตัวเล็ก" ก็จะไม่มี อย่างดีก็ทะเลาะกับหมาไปเล็กน้อยเท่านั้น..!
วิธีการสร้างสติเหล่านี้ ครูบาอาจารย์สมัยก่อนท่านจะแนะนำแก่พระภิกษุสามเณรรุ่นเก่า ๆ ทำให้เขาทั้งหลายเหล่านั้นได้มีโอกาสในการที่จะรักษาตน ไม่ให้ รัก โลภ โกรธ หลง กระหน่ำตีในช่วงที่ทรงชีวิตของนักบวชอยู่ ต่อให้สึกหาลาเพศไปแล้ว ถ้าทำจนชิน กำลังใจของเรามีสมาธิ ก็อาจจะกลายเป็นฆราวาสจอมขมังเวทย์เช่นกัน
กระผม/อาตมภาพได้มีโอกาสพบท่านปู่ขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งตอนนั้นท่านก็อายุ ๙๐ ปีแล้ว นอกจากเวลาตอบคำถามที่สอบถามท่านแล้ว เวลาที่เหลือท่านนิ่งอยู่กับการภาวนาตลอดเวลา ต้องทำให้ได้ถึงระดับนั้น จึงจะสามารถใช้พระคาถาต่าง ๆ ได้ผล แต่ว่าพ่อปู่ขุนพันธ์ฯ ก็ยังบอกว่ากำลังสมาธิของท่านยังไม่ดีพอ เพราะว่าพระคาถาบางอย่างนั้นไม่สามารถที่จะทำให้ได้ผลเต็มที่ เหมือนกับครูบาอาจารย์รุ่นเก่า ๆ อย่างเช่นว่า บางท่านภาวนาคาถาแล้วมองไป ฝ่ายที่สบตาก็ล้มสลบไปเลย แต่ว่าท่านทำไม่ได้ถึงระดับนั้น..!
กระผม/อาตมภาพไปนึกถึงหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ที่หลายต่อหลายท่านบอกว่าท่านสำเร็จวิชา "ตาเสือ" หรือว่า "เนตรพยัคฆ์" ถ้าหากว่าใครสบตาท่าน บางทีก็เข่าอ่อนเป็นลมไปเลย เหล่านี้เป็นต้น ตัวกระผม/อาตมภาพเองซึ่งใช้คาถามหาประสาน ก็ไม่สามารถที่จะทำได้เต็มที่เช่นกัน สามารถทำได้แค่ห้ามเลือดให้หยุด ดังนั้น...แทนที่จะเป็นคาถามหาประสานที่ทำให้บาดแผลทั้งหมดหายสิ้นไปเหมือนกับไม่เคยมีมาก่อน ก็กลายเป็นว่าทำได้แค่คาถาห้ามเลือดเท่านั้น ขึ้นอยู่กับความเพียรพยายามของแต่ละคนว่าจะทำอย่างไร
ในช่วงแรก ๆ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านก็จะให้พระคาถามาทีละบท เมื่อทำแล้วได้ผล ไปถวายรายงาน ท่านก็จะจะชมเชยแล้วก็ให้พระคาถาบทใหม่ ๆ มาเรื่อย เสียอยู่อย่างเดียวว่าคาถาที่ทำให้เพศตรงข้ามรัก ท่านบอกว่าไม่มี ให้ทำดี พูดดี คิดดีกับเขา เขาก็รักเราแล้ว ก็เลยไม่มีโอกาสที่จะสึกหาลาเพศไปมีครอบครัว เพราะว่าขาดคาถาไปเสียอย่างนั้น..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2024 เมื่อ 02:09
|