ไม่ต้องเอาอะไรหรอก ประมาณปี ๒๕๒๑ อาตมาเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ ตอนนั้นโทรศัพท์บ้านหายากมาก ใครต้องการต้องไปวางมัดจำ ๓,๐๐๐ บาท แล้วก็รอไป ๗ ชั่วโคตร..! ว่าเมื่อไรจะถึงคิวของเราที่จะได้เบอร์ ? พอกระทรวงคมนาคมมาขยายโทรศัพท์บ้าน ๑ ล้านหมายเลข ขยายได้ไม่เท่าไร ก็มีโทรศัพท์มือถือออกมา น่าสงสารโทรศัพท์บ้านมากเลย..!
ชาวบ้านทั่ว ๆ ไปเริ่มจะมีโทรศัพท์พื้นฐานใช้ ปรากฏว่ามือถือมา เป็นอะไรที่รู้สึกว่าย้อนแย้งประชดชีวิตมาก องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยก่อนหน้านี้เป็น "เสือนอนกิน" เก็บคนละ ๓,๐๐๐ บาท เอาไปออกดอกได้เท่าไรก็ไม่รู้ ? แล้วก็หาเบอร์โทรศัพท์ให้ชาวบ้านแต่ละปีได้ไม่เท่าไร พอโครงการเบอร์โทรศัพท์ ๑ ล้านหมายเลขมาถึง องค์การโทรศัพท์แทบจะเจ๊ง เพราะว่าชาวบ้านหันไปซื้อโทรศัพท์มือถือกันหมดแล้ว..!
มือถือเครื่องแรกที่เข้ามามีขนาดใหญ่ราว ๆ กระเป๋าเอกสาร แล้วก็มีตัวโทรศัพท์ห้อยอยู่ด้านข้าง ยี่ห้อ Ericsson ราคา ๘๐,๐๐๐ บาท ต้องไปตั้งเสาอากาศก่อนถึงจะใช้งานได้ ลูกศิษย์เขาสั่งซื้อมาถวายหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง
ตอนเจ้าหน้าที่มาติดตั้งหลวงพ่อท่านไม่อยู่ ท่านไปรับสังฆทานที่บ้านสายลม เจ้าหน้าที่เขาบอกว่า "ต้องมีคนมาศึกษาระบบครับ ถึงเวลาจะได้เรียนถวายหลวงพ่อท่านได้" พระทั้งวัดท่าซุงก็ผลักอาตมาออกหน้าไป อาตมาต้องศึกษาการใช้จนเสร็จสรรพเรียบร้อย พอหลวงพ่อกลับมาจากบ้านสายลม
วันรุ่งขึ้นก่อนเพลก็เข้าไปถวายรายงานว่า "ช่างเขามาติดตั้งโทรศัพท์ให้แล้ว มีวิธีใช้แบบนี้ ขออนุญาตเรียนถวายหลวงพ่อครับ" แล้วก็บอกท่านว่าต้องกดอย่างไร ? โทรออกอย่างไร ? ตอนรับเข้ารับอย่างไร ? บันทึกเสียงอย่างไร ? พอบอกเสร็จเรียบร้อยหลวงพ่อก็ "เออ..ขอบใจมาก เมื่อวานช่างไปบอกข้าที่กรุงเทพฯ แล้ว" ถ้าตูจำผิดนี่ตายแน่เลย..! เอ้า..แค่นี้นะ..ทำวัตรกันก่อน
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๕๖๗ ณ วัดท่าขนุน
ก่อนทำวัตรเย็น วันอาทิตย์ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล และ นาทาม)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2024 เมื่อ 02:41
|