ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 06-08-2024, 00:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพราะฉะนั้น..พระใหม่ที่เข้าไปจะต้องไปตัดไม้ค้ำมาหนึ่งอัน ก็คือเป็นไม้ง่ามที่ถือได้ถนัดมือ พอศพพรวดขึ้นมา ก็เอาไม้ง่ามค้ำคอศพไว้ เสร็จแล้วก็ "อนิจจา วต สังขาราฯ" ชักผ้ามา คราวนี้ผ้าพาดอยู่กับศพ บางทีก็ตายหลายวัน ศพก็เน่าก็เปื่อย น้ำเหลืองซึมเข้าไปในผ้า ถึงเวลาซักขนาดไหน ตากขนาดไหนก็ตาม กลิ่นหมดแค่ตอนนั้น พอเปียกเหงื่อหรือว่าชื้น ๆ หน่อย กลิ่นผีตายจะออกมาชัดมากเลย..!

สมัยโบราณเขาถึงได้บอกว่า ของที่เหม็นที่สุดในโลกมีสองอย่าง อย่างแรกคือขี้อีแร้ง อย่างที่สองคือจีวรพระ อีแร้งกินแต่ซากสัตว์ คุณค่าทางอาหารก็คงจะมีน้อยอยู่แล้ว ถึงเวลาถ่ายออกมาก็เหม็นมาก เหม็นอย่างชนิดไม่มีใครอยากเข้าใกล้ไปแถวรังอีแร้ง ส่วนจีวรพระเหม็นเพราะน้ำเหลืองผี อาตมาทุกวันนี้ได้กลิ่นเมื่อไร จะจำได้ทันทีว่านี่กลิ่นศพแน่นอน..!

ย้อนกลับไปที่สัปเหร่อลุงมี แกจะมีมีดหมอติดตัวอยู่ เป็นมีดซุย ลักษณะเหมือนอย่างกับมีดใช้งานธรรมดานี่แหละ แต่ว่าด้ามโค้ง ๆ ลงมาเหมือนด้ามปืน แกก็ใช้ของแกทุกวัน ลับเสียขาววับเลย เวลาจะสะกดผีจะอะไรแกก็ใช้มีดเล่มนั้น ถึงเวลาไปรูดเนื้อออกจากกระดูกแกก็เอามีดเล่มนั้นนั่นแหละ เลาะเนื้อเลาะกระดูก ทำความสะอาดเสร็จสรรพเรียบร้อยก็เอามาใช้หั่นหมู หั่นปลา ทำกับข้าว..!

เด็ก ๆ อย่างพวกเรา กลัวก็กลัว แต่ก็เมียงมองเข้าไป แกก็เป็นคนใจดี ปอกมะม่วงเสร็จ "เอ้า..ไอ้หนู ลุงแบ่งให้" กูวิ่งหนีเลย..! แกก็ใช้ไอ้มีดเล่มนั้นแหละ..! ล้างสะอาดขนาดไหนเราก็รู้สึก บรื๋ออว์..เพิ่งจะใช้ลอกเนื้อผีมาไม่นาน..ใช่ไหม..?!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2024 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา