คราวนี้ก็เหลือแต่เราว่าจะมีปัญญาไหม ? ตอนที่โดนไฟเผาตลอดเวลาดิ้นไปดิ้นมานี่ไม่มีเวลาพิจารณาอะไรเลย พอไฟดับก็สบาย ไม่ต้องดิ้นแล้ว ค่อย ๆ มอง ก็จะเห็นว่าเรื่องของ รัก โลภ โกรธ หลง นี้ทำร้ายเราอยู่ตลอดเวลา แล้วยังอยากได้อีกไหม ?
ในเมื่อไม่อยากได้จะหลีกจะหนีอย่างไร ? ก็จะเห็นว่าราคะต้องตัดอย่างไร ? โทสะต้องตัดอย่างไร ? โมหะต้องตัดอย่างไร ?
ราคะคือรักกับโลภรวมกัน เพราะว่ารักจึงอยากมีอยากได้ ท่านให้สละออก ภาษาบาลีใช้คำว่าจาโค สละออก แต่ถ้าปฏินิสสัคโคนี่หนักเลย เหวี่ยงทิ้งไปเลย..! ในธัมมจักกัปปวัตตนสูตร จาโค ปฏินิสสัคโค มุตติ อนาลโย..สละออก เหวี่ยงทิ้งไปได้ ก็หลุดพ้น ไม่มีความห่วงหาอาลัย อนาลโย..ไม่มีความห่วงหาอาลัย มุตติ..หลุดพ้น
ก็อยู่ที่พวกเราว่าจะทำได้แค่ไหน ? ถึงเวลาก็ซ้ายย่างหนอ ขวาย่างหนอ เบื่อฉิบหายเลยหนอ..! อย่าเผลอนะ..เผลอหลุดออกมาอย่างนี้ เดี๋ยวเจอพระวิปัสสนาจารย์ฟาดหัวด้วยไมค์ลอย..! เบื่อก็ต้องทน ตั้งใจจะสู้กิเลสแล้ว แหม..ถึงเวลาก็ ซ้ายย่างหนอ ขวาย่างหนอ เอาสติกำหนดตามไป
ถามว่า "อย่างไรถึงจะใช้ได้ ?" ก็ต้องให้คำบริกรรมกับการเคลื่อนไหวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซ้าย..ก็คือยกเท้าขึ้น ย่าง..คือเคลื่อนเท้าไป หนอ..ก็เท้าลงแตะพื้น ขวา..ก็ยก ย่าง..ก็เคลื่อนไป หนอ..ก็ลงแตะพื้น พร้อม ๆ กัน ทัน ๆ กัน ไม่ช้าเกินไป ไม่เร็วเกินไป
ก็คือสติจดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวของร่างกาย จัดอยู่ใน อิริยาปถปัพพะ ในมหาสติปัฏฐานสูตร คือการพิจารณาอิริยาบถของตน อิริยาบถใหญ่ ยืน เดิน นั่ง นอน อิริยาบถย่อย เหลียวซ้าย เหลียวขวา เหยียดแขน คู้แขน เหล่านี้เป็นต้น
ถ้าหากว่าเราสามารถกำหนดสติให้มั่นคงตอนที่กำลังเดินได้ ตอนนั่งนี่ง่ายเลย นั่งนิ่ง ๆ ไม่ได้ขยับ..สบาย ถ้าไล่จับที่วิ่ง ๆ ทันแล้ว ที่หมอบเฉย ๆ นี่ไปไม่รอดหรอก เสร็จเราหมด..!
วันนี้จากความฟุ้งซ่านที่ว่า เจอฝนเข้า เท้าไม่รู้จักหายเปียกสักที อยากได้เกราะหวายลอยน้ำมา กลายเป็นว่าเกราะหวายดันโดนไฟเผาตาย ไปเห็นทุกข์เห็นโทษของการเกิดมาแล้วต้องสร้างบาป ถอนใจจากความห่วงหาอาลัย ไม่เกิดดีกว่า จึงมาทำสมาธิกัน คนละเรื่องก็อุตส่าห์คุยเป็นเรื่องเดียวได้..! เดี๋ยวพวกเราเริ่มต้นสมาทานพระกรรมฐานแล้วเข้าสู่การปฏิบัติช่วงบ่ายกันเลย
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๕๖๗ ณ วัดท่าขนุน
ก่อนปฏิบัติธรรมช่วงบ่าย วันอาทิตย์ที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล และ นาทาม)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2024 เมื่อ 02:31
|