พวกเราทราบหรือไม่ว่าพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีพระองค์ไหนมีพระชนมพรรษายืนที่สุด ? ก็คือรัชกาลที่ ๙ พระองค์ท่านทรงมีพระชนมายุ ๘๙ พรรษา รองลงไปคือรัชกาลที่ ๑ ทรงมีพระชนมายุ ๗๓ พรรษา
เกณฑ์อายุยืนสมัยก่อน เขาตัดสินกันที่ว่า ถ้าเกิน ๕๐ ปีขึ้นไปถือว่าอายุยืน อาตมาเองอาจจะเคยบ่นให้หลายท่านฟังว่า ชาติก่อน ๆ อาตมาอายุถึง ๔๐ กว่าก็ถือว่าอายุยืนมากแล้ว..ใช่ไหม ? เพราะว่าสร้างเวรสร้างกรรม รบราฆ่าฟันเขาเอาไว้ทุกชาติ กรรมปาณาติบาตพอมาสนองเป็นอุปฆาตกรรม ก็ตัดชีวิตเราให้ตายลงตั้งแต่อายุยังไม่มาก
ถ้าหากว่านับในพระบรมราชจักรีวงศ์จะหาที่อายุถึง ๖๐ ก็ยากแล้วนะ มีรัชกาลที่ ๔ ได้ ๖๕ พรรษา นอกนั้นก็ ๔๐ กว่า ๕๐ กว่าก็สวรรคตแล้ว
สมัยนี้คนแก่มากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าสร้างเวรสร้างกรรมไว้น้อย..ใช่หรือเปล่า..? ต้องใช่สินะ เขาบอกว่าเป็นเพราะการรักษาพยาบาลดีขึ้น หมอรู้จักโรคมากขึ้น ทำให้โรคแปลก ๆ ที่สมัยก่อนเรียกเหมารวมกัน อย่างเช่นว่าเป็นมะเร็ง เขาก็เรียกว่า "ฝีในท้อง" เป็นวัณโรคก็ฝีในท้อง อะไร ๆ ก็เรียกเหมือนกันหมด ส่วนสมัยนี้แยกได้ใช่ไหม เช่น มะเร็ง ก็มีมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งรังไข่ มะเร็งปากมดลูก แต่สมัยก่อนเรียกเป็นฝีในท้องหมด..ก็ใช่ตามนั้นอยู่หรอกนะ
หลวงปู่สายท่านป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง สมัยโบราณเขาเรียกว่า "ฝีประคำร้อย" เพราะว่าไปตามต่อมน้ำเหลือง ก็เลยเรียงเป็นแถวเหมือนลูกประคำ อะไร ๆ โบราณก็เรียกว่าฝี พอเรียกว่าฝีก็รู้สึกว่าไม่หนักเท่าไร..ใช่ไหม ?
สมัยอาตมาเด็ก ๆ เขามีพ่อหมอที่สูญฝีให้กับพวกเด็ก ๆ ท่านเก่งมากเลย เพราะสมัยก่อนพวกโรคติดเชื้อเป็นกันง่าย โดนยุงกัดหน่อยก็เป็นฝีแล้ว จะกลัดหนอง บางคนเรียก "ฝีปากหมู" เพราะว่าบวมขึ้นมา ถึงเวลาถ้าฝีแตกก็จะโบ๋อยู่อย่างนั้น เหมือนอย่างกับปากเล็ก ๆ
สมัยนั้นยาปฏิชีวนะก็หายาก ต้องอาศัยพึ่งพาหมอ คราวนี้หมอสมัยใหม่ไม่ค่อยมี มีแต่หมอยาโบราณ ซึ่งจะใช้ยาคุณพระ ก็คือก่อนกินต้องเสกก่อน "พุทธะรัตตะนัง ธัมมะรัตตะนัง สังฆะรัตตะนัง โอสะถัง อุตตะมัง วะรัง สัพพะทุกขัง สัพพะโรคัง วินาสเสติ อะเสสะโต" พระคาถาบทนี้เอาไปใช้ได้จริง ๆ นะ..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2024 เมื่อ 02:25
|