แล้วก็ยังมีพระคาถาอีก ๒ บท ท่านให้เสกอาหาร ก็คือ "พุทธังมัดจิต ธัมมังมัดใจ ศัตรูทั้งหลายวินาศสันติ" และ "พุทธังมัดจิต ธัมมังมัดใจ โรคภัยทั้งหลายวินาศสันติ" โดยให้ภาวนานึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระนามว่าพระพุทธกัสสปและท้าวเวสสุวรรณ ผู้นำพระคาถามามอบให้ ท่านบอกว่าเสกอาหารทุกครั้ง สามารถที่จะทำลายพวกไสยศาสตร์หรือยาพิษที่แฝงมาได้ แล้วขณะเดียวกัน ใครรับอาหารส่วนที่เหลือไปกินไปใช้ต่อ ก็เท่ากับเป็นยารักษาโรคไปด้วย
ดังนั้น..เรื่องพวกนี้ ถ้าหากว่าเราจะศึกษา ท่านให้ตั้งขันครู ประกอบไปด้วยบัวขาว ๕ ดอก เทียนขาว ๕ เล่ม ธูป ๕ ดอก แล้วก็เงิน ๕ บาท หลังจากที่ไหว้ครูแล้ว เงินให้เอาไปใช้ในด้านสังฆทาน เลือกเอาวันพฤหัสบดีข้างขึ้นมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ตั้งขันครูขออนุญาตเจ้าของพระคาถาทุกรูปทุกองค์ว่า ขออนุญาตศึกษาและใช้พระคาถานี้ ขอให้มีอานุภาพสูงสุดเท่าที่จะพึงมีพึงได้
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ถ้าเราศึกษาเอาไว้ ที่กระผม/อาตมภาพมั่นใจที่สุดก็คือ ผลนั้นทำให้เรามีความมั่นใจตัวเองมากขึ้น ไม่ใช่ในเรื่องผลที่พระคาถาจะสำแดงให้เกิด แต่เป็นการที่ว่าเราทั้งหลายเมื่อใช้แล้วจะเกิดความมั่นใจมากขึ้น มีความกล้าหาญมากขึ้น โดยเฉพาะถ้าพวกเราทั้งหลายคิดเป็น จะเข้าถึงอำนาจของพระคาถาได้มากกว่าคนอื่นเขา อย่างเช่นบทนะโมพุทธายะ ที่อ้างพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึง ๕ พระองค์ ต่อให้พระองค์เดียวก็กินไม่ไหวใช้ไม่หมดแล้ว เล่นมาทีเดียว ๕ พระองค์เลย..!
ท่านทั้งหลายลองคิดดูว่า ในขณะที่โลกมืดมนด้วยอวิชชา ไม่มีใครสามารถมองเห็นเหมือนดั่งคนตาบอด แล้วองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้ปัญญาญาณอันแก่กล้า แหวกทะลุอวิชชาทั้งหลายเหล่านั้นออกไปได้ ต้องใช้พลังของ ศีล สมาธิ ปัญญา ที่มากมายมหาศาลขนาดไหน ? มีใครสักกี่คนที่จะทำแบบนั้นได้ ? อานุภาพเล็กน้อยเพียงเท่านี้ก็ไม่มีใครสามารถเทียบได้แล้ว แล้วเรายังไปอ้างนามพระพุทธเจ้าถึง ๕ พระองค์ อานุภาพก็คูณ ๕ เข้าไป ไม่ต้องคิดอะไรมากก็เอาแค่นี้ ท่านก็จะยืนอยู่ในลักษณะที่เหนือกว่าทุกสรรพสิ่งแล้ว
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราจะเกิดความมั่นใจ ทำให้พระคาถาต่าง ๆ ขลังขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เพียงแต่ว่าคิดให้เป็น พิจารณาให้เป็น แล้วเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เราจะใช้งานได้ดีกว่าคนอื่นเขา มีโอกาสก็ให้ทำการไหว้ครู แล้วก็ไปซักซ้อมดูว่าผลจะเป็นอย่างไร
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-08-2024 เมื่อ 02:54
|