แล้วคราวนี้เราทำอย่างไร ? ใส่หมูสับ หอมซอยอีกหน่อย กระเทียมเจียวอีกนิด กุ้งแห้งหน่อยหนึ่ง ตั้งฉ่ายหน่อยหนึ่ง ยิ่งปรุงยิ่งอร่อย ไอ้โน่นก็น้ำตาล ไอ้นี่ก็น้ำส้มสายชู ไอ้นั่นพริกดอง ใส่ไปเรื่อย ยิ่งอร่อยก็ยิ่งกินมาก ก็เจริญ..เพราะว่ากิเลสงอกงาม..!
คราวนี้ถ้าหากว่าเราจะไม่ปรุงต้องทำอย่างไร ? ก็ต้องทำตัวสิ้นคิด ต้องเป็นลูกศิษย์หลวงตาสินทรัพย์ จรณธมฺโม หยุดความคิดให้ได้ เห็นเพศตรงข้ามเดินมา ห้ามคิดต่อเด็ดขาดเลย สวยหรือไม่สวย หล่อหรือไม่หล่อ เจ๊งทั้งคู่..!
เห็นสวยเห็นหล่อ..ชอบใจ..เป็นราคะ ไม่สวยไม่หล่อ..ไม่ชอบใจ..เป็นโทสะ กิเลสกินเราทั้งขึ้นทั้งล่อง..!
แต่ถ้าเราหยุดคิดอยู่ตรงนั้น สักแต่ว่าเป็นรูป สักแต่ว่าเป็นธาตุ มองไปไม่มีอะไรแตกต่างจากสิ่งอื่นรอบข้าง จิตใจก็ไม่ปรุงแต่งไปใน รัก โลภ โกรธ หลง ในเมื่อเราไม่คิด ไม่ปรุงแต่ง ก็คือเราไม่ไปใส่สิ่งต่าง ๆ ลงไปในก๋วยเตี๋ยวถ้วยนั้น ความอยากกินก็ไม่มี
ในเมื่อหมดอยาก ก็จะค่อย ๆ ถอนกำลังใจออกมา ยิ่งยึดเกาะน้อยเท่าไร ก็ยิ่งเบาสบายเท่านั้น นี่คือสิ่งที่พวกเราขาด ขาดเพราะอะไร ? ขาดเพราะสติไม่เท่าทันกิเลส แล้วทำไมกิเลสไม่เท่าทันกิเลส ? เพราะสมาธิไม่มี แล้วทำไมสมาธิไม่มี ? เพราะว่ารักษาศีลไม่ทรงตัว ศีลเป็นเครื่องค้ำจุนสมาธิให้ทรงตัว
วนเป็นงูกินหางอยู่แค่นี้เองในเมื่อศีลไม่ทรงตัว สมาธิไม่เกิด สติไม่มี แล้วปัญญาจะมาได้อย่างไร..?ก็แปลว่าที่เราเจ๊งทุกครั้ง แพ้ทุกงาน เกิดจากการที่เราไม่ทำอะไรจริงจัง ทำเล่น ๆ ทำเหมือนกับแก้บน ไปลองวัดโน้นหน่อยเขาว่าดี ไปลองแบบวัดนี้หน่อยเขาว่าดี นั่นมันดีของเขา..! ต้องหาดีของเราให้เจอ
จะว่าไปแล้วอาตมภาพนั่งบ่นอยู่ตรงนี้มาหลายสิบปีแล้วนะ บ่นไปเท่าไรก็เหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมาเลย กัดลิ้นตายดีกว่า..!
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๕๖๗ ณ วัดท่าขนุน
ก่อนปฏิบัติธรรมช่วงบ่าย วันเสาร์ที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล และ นาทาม)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 06-08-2024 เมื่อ 01:01
|