วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เราทั้งหลายที่มาบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติในรุ่นนี้ ถ้าไม่รู้จักปฏิบัติและรักษากำลังใจด้วยตนเองก็จะได้ประโยชน์น้อยมาก
เนื่องเพราะว่าเมื่อเช้ากระผม/อาตมภาพก็ติดงานอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเจริญพระชนมายุ ๗๒ พรรษา พรุ่งนี้ช่วงเช้าก็ยังมีพิธีถวายพระพร ในโอกาสที่โอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเจริญพระชนมายุ ๗๒ พรรษา ณ ที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิ ตอน ๑๐ โมงก็ยังมีการเจริญพระพุทธมนต์ย่ำฆ้อง กลอง ระฆัง และของเราก็จะมีการแสดงพระธรรมเทศนาวชิโรปมกถา ช่วงค่ำก็ยังมีการเจริญพระพุทธมนต์หลังทำวัตรค่ำตามมติมหาเถรสมาคม จะเหลือเวลาปฏิบัติธรรมจริง ๆ ของเราไม่มากเลย
ทุกท่านต้องเข้าใจว่าเราเดินทางมาไกลก็เพื่อหวังประโยชน์ แต่พอมาถึงแล้วเห็นว่าทางวัดมีกิจกรรม แทนที่เราจะรักษากำลังใจของตนเองไว้ ก็ปล่อยให้ลอยตามกิจกรรมนั้นไป ดีไม่ดีก็จะพาให้ขาดทุนไปด้วย บางท่านบางคนพอผิดที่ผิดทาง กลางคืนนอนไม่หลับ แทนที่จะเร่งการภาวนาให้มาก กลับไปนั่งเขี่ยโทรศัพท์ กระผม/อาตมภาพถึงได้กล่าวว่า พวกเราปฏิบัติธรรมเหมือนกับ "แก้บน" คือสักแต่ให้พ้น ๆ ไป แล้วก็อยากถามว่า "ถ้าเป็นอย่างนั้นจะมาทำอะไรกัน ?"
การปฏิบัติธรรมของเรานั้นจุดหนึ่งที่ทุกคนต้องการมากที่สุด ก็คือมีสติ รู้ตัวอยู่ทั้งตื่นและหลับ เนื่องเพราะว่าบุคคลปกติทั่ว ๆ ไป แม้ว่าเวลาตื่นอยู่จะระมัดระวังรักษากำลังใจแค่ไหนก็ตาม เมื่อตอนที่เราหลับก็มักจะขาดสติ ปล่อยให้ รัก โลภ โกรธ หลง กินใจของเราในตอนนั้น สิ่งที่เราปฏิบัติธรรมได้ในช่วงที่ตื่นอยู่จึงพังไม่เหลือเลย..!
อย่างที่เคยยกตัวอย่างว่า เวลากลางวัน แม้แต่มดตัวเดียวเราก็ระมัดระวังไม่ให้เหยียบ แต่พอนอนหลับ ฝันว่าฆ่าเขาเป็นกองทัพเลย..! เวลากลางวันแม้แต่เพศตรงข้ามก็ยังไม่กล้ามองตรง ๆ กลางคืนปล้ำลูกชาวบ้านเขาไปแล้ว..! นั่นคือความที่เราขาดสติ เมื่อถึงเวลาสภาพจิตก็แสดงออกตาม รัก โลภ โกรธ หลง ที่เรามีอยู่
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราจึงต้องเร่งปฏิบัติภาวนาให้มากเข้าไว้ แต่ว่าหลายท่านพอทำไปถึงระดับนั้น จิตมีสภาพตื่นกลับไปเครียดแทน เพราะคิดว่าตัวเองไม่ได้นอน ความจริงร่างกายของเรานอนอยู่ ได้รับการพักผ่อนที่พอเพียงแล้ว แต่สภาพจิตที่ตื่นเพื่อระมัดระวังไม่ให้กิเลสกินใจของเรา ทางด้านพระจึงต้องออกธุดงค์ เพื่ออาศัยสถานที่และอันตรายต่าง ๆ ที่เข้ามา ทำให้สภาพจิตมีความตื่นอยู่เนื่องเพราะความกลัวภัย จะได้รู้เท่าทันกิเลสในยามที่ตื่นอยู่ตลอดเวลา แต่พอท่านตื่นอยู่จากการปฏิบัติกลับอยากจะหลับ..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 03-04-2025 เมื่อ 00:16
|