ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 26-07-2024, 00:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ฝนฟ้ายังคงกระหน่ำกันข้ามวันข้ามคืน เริ่มมีน้ำป่าไหลหลากข้ามถนนช่วงบ้านวังเกียง บริเวณหน้าพื้นที่ของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ ๑๑ (นพค.๑๑) กองบัญชาการกองพลพัฒนา ซึ่งบริเวณจุดนั้นเป็นจุดที่จะมีน้ำป่าไหลหลากข้ามถนนเป็นประจำ

ดังนั้น..ถ้าหากว่ามีข่าวน้ำท่วมอำเภอทองผาภูมิก็ขอให้ญาติโยมอย่าได้ตกใจ เนื่องเพราะว่าไม่ใช่น้ำท่วมในความหมายทั่วไป หากแต่เป็นน้ำหลากผ่านไปแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ทองผาภูมินั้นสูงกว่ากรุงเทพฯ ๖๐๐ กว่าเมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ถ้าหากว่าทองผาภูมิน้ำท่วม กรุงเทพฯ ก็คงอยู่ใต้ทะเลไปเกินครึ่งกิโลเมตรเห็นจะได้..!

เพียงแต่ว่าสงสารแต่พระภิกษุสามเณรที่ออกบิณฑบาตเท่านั้น เพราะว่าเปียกโชกอยู่ทุกวัน กระผม/อาตมภาพเองที่เฒ่าชะแรแก่ชราแล้ว กว่าจะเดินกลับถึงวัด ช่วงท้าย ๆ ก็แทบจะหนาวจนแข็งไปทั้งตัว บางทีก็เกรงอยู่เหมือนกันว่าจะโดนตะคริวกินหรือไม่ ? แต่ก็ยังโชคดีที่รอดมาได้หลายครั้งหลายคราวเต็มที เพียงแต่ว่าเวลาเปียกฝนหนัก ๆ ผ้าสบงจีวรมักจะแนบติดตัว ทำให้ก้าวขาได้ลำบาก เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ที่ก้าวขาไม่ออก แล้วก็ตกบันไดตรงบริเวณหัวสะพานแขวนหลวงปู่สายฝั่งสวนสาธารณะ ทำให้เล็บหัวแม่เท้าหลุดไปทั้งอัน..!

ในสมัยที่อยู่วัดท่าซุงนั้น บรรดารุ่นพี่ ๆ ถ่ายทอดวิทยายุทธให้ เนื่องเพราะว่านอกจากมีสายบิณฑบาตทางน้ำแล้ว กระผม/อาตมภาพยังต้องลงไปพายเรือเพื่อขับไล่พวกที่มาหาปลาหน้าวัดแทบทั้งคืน รุ่นพี่ ๆ บอกว่า "ถ้าหากว่าตกน้ำให้สลัดจีวรออกจากตัวก่อน โดยที่ตั้งสติปลดจีวรออกช้า ๆ อย่าไปดิ้นรน ถ้าหากว่ายิ่งดิ้น ผ้าจะยิ่งพันหนักขึ้น ทำให้เราโดนถ่วงจมน้ำตายได้ง่าย ๆ" แต่ด้วยความที่ว่ายังไม่เคยมีประสบการณ์แบบนั้น จึงทำให้ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่า ถ้าตกน้ำอย่างแท้จริงแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เห็นแต่รุ่นพี่ท่านหนึ่ง ในอดีตนั้นคือหลวงพี่วีรยุทธ วีรยุทฺโธ ท่านบิณฑบาตสายเรือมา แต่ปรากฏว่าบริเวณหน้าแพของวัดท่าซุงนั้นจะมีการปักไม้ไผ่ไว้เป็นรอ เพื่อสกัดกั้นไม่ให้พวกสวะ อย่างเช่นผักตบชวา หรือว่าหญ้าอ้อกอแขมต่าง ๆ ไหลเข้ามาในบริเวณวัด พอนาน ๆ ไป ไม้ไผ่ก็ผุหักพับหายไปจากสายตา แต่ในส่วนที่อยู่ใต้น้ำก็ยังคงมีอยู่เป็นปกติ

วันนั้นอดีตหลวงพี่วีรยุทธ พอหัวเรือตรงเข้ามาใกล้จะถึงแพก็สะดุดรอไม้ไผ่ เป็นการสะดุดชนิดที่เรียกว่าอยู่คาที่เลย ไม่มีการแฉลบ ไม่มีการลื่นไหล จึงทำให้พระทั้งหลายหัวทิ่มลงน้ำกันหมด..! กว่าที่จะพลิกเรือกลับขึ้นมา กว่าที่จะควานหาบาตรที่ตกน้ำได้ หลวงพี่วีรยุทธก็จีวรหายไปผืนหนึ่ง..! ต้องบอกว่าโชคดีมากที่มาเรือคว่ำเอาบริเวณหน้าวัดพอดี ถ้าเป็นที่อื่นอาจจะต้องลำบากมากกว่านี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-07-2024 เมื่อ 01:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา