ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งที่เป็นประเพณีในพระพุทธศาสนา สืบทอดกันมานานจนกลายเป็นวัฒนธรรมอันดีงาม ถ้าหากว่าเอาตามศัพท์สมัยใหม่ก็คือเป็น "วัฒนธรรมองค์กร" อย่างหนึ่ง เพียงแต่ว่าเป็นองค์กรพระพุทธศาสนาเท่านั้น แล้วเป็นองค์กรที่มหัศจรรย์มาก เพราะว่าองค์กรนี้บริหารด้วยบริขาร ๘ เท่านั้น ก็คือ สบง จีวร สังฆาฏิ บาตร ประคดเอว หม้อกรองน้ำ มีดโกน เข็มและด้าย ใช้งบประมาณเพียงน้อยนิด แต่บริหารองค์กรประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่มาก เป็นองค์กรที่ยืนยาวมา ๒,๕๖๐ กว่าปีแล้ว..!
ดังนั้น..ในส่วนของความดีความงามในพระพุทธศาสนานั้น เป็นสิ่งที่เราท่านทั้งหลายต้องช่วยกันรักษาเอาไว้ อะไรที่ดีงามเราก็รักษาของเก่าไว้ อะไรที่สามารถปรับปรุงเป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ เราก็ปรับปรุงโดยไม่ให้เสียแก่นแท้ ถ้าทำแบบนี้ พระพุทธศาสนาของเราก็จะทันสมัยและเจริญรุ่งเรืองได้
อย่างที่ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าปัจจุบันนี้มีการเผยแผ่ธรรมในสารพัดวิธีตามสื่อโซเชียลต่าง ๆ มีทั้งออกเป็นรายวัน ออกเป็นรายวันพระ หรือว่าออกทุกวัน เพียงแต่ว่าเราท่านทั้งหลาย อย่างน้อยต้องมีความรู้เก่าที่ครูบาอาจารย์สั่งสอน หรือว่าศึกษาตามพระไตรปิฎกมาในระดับหนึ่ง ไม่อย่างนั้นก็ไม่สามารถที่จะแยกแยะได้ว่าสิ่งที่ท่านทั้งหลายกล่าวถึง และสามารถหาได้ในสื่อโซเชียลต่าง ๆ อย่างง่ายดายนั้น อะไรเป็นธรรมแท้ อะไรเป็นสัทธรรมปฏิรูป
ก็แปลว่าการที่เราจะแยกแยะของแท้ออกจากของเทียมได้ เราต้องมีพื้นฐานในระดับหนึ่ง ซึ่งอยู่ในระดับที่ถึงเวลาแล้วต้องสามารถแก้ต่างให้กับพระพุทธศาสนาได้ ใครมีอะไรสงสัย ข้องใจ ต้องสามารถชี้แจงให้ชัดเจนได้ จึงกลายเป็นภาระของพุทธบริษัททั้ง ๔ คือภิกษุ ภิกษุณี ซึ่งปัจจุบันนี้อนุโลมเอาแม่ชีเข้าไปแทน อุบาสก อุบาสิกา ต้องตั้งหน้าตั้งตาศึกษาและปฏิบัติธรรมให้เกิดผลอย่างแท้จริง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2024 เมื่อ 05:31
|