เมื่อท่านตั้งใจทำบุญก็ได้บุญแล้ว ถ้าหากว่าพบพระเถระรูปหนึ่งรูปใดก็ให้ทำบุญไปเลย กระผม/อาตมภาพขออนุโมทนาด้วย หรือว่าท่านจะร่วมบุญกับหลวงปู่เชิด (พระเดชพระคุณพระพรหมวชิรมุนี) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามก็ได้ ท่านเป็นพระนักปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเช่นกัน
การที่เราจำเพาะเจาะจง จะถวายปัจจัยไทยธรรมร่วมบุญกับพระเถระรูปใดรูปหนึ่งนั้น เป็นได้แค่ปาฏิปุคคลิกทาน ก็คือทานเฉพาะตน ซึ่งอานิสงส์น้อยกว่าสังฆทานเป็นแสนเท่า..! เพราะว่าสังฆทานนั้น พระหนุ่มเณรน้อยทั้งหลายมีส่วนในการร่วมกินร่วมใช้ทั้งหมด กลายเป็นทานค้ำจุนพระพุทธศาสนา
คราวหน้าญาติโยมทั้งหลายถ้าจะทำบุญกับกระผม/อาตมภาพ ขอให้ทุกท่านตั้งใจให้เป็นสังฆทานดีกว่า ไม่ว่าหลวงปู่หลวงพ่อ หรือพระหนุ่มเณรน้อยรูปใดเดินผ่านมา ท่านก็ถวายไปเลย ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะมีผลานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่มาก แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังตรัสเอาไว้ว่า "ถวายทานกับพระองค์ท่าน ๑๐๐ ครั้ง ยังไม่เท่ากับถวายสังฆทาน ๑ ครั้ง"
ในขณะเดียวกัน ก็ยังเป็นการถอนการยึดติดในตัวบุคคลไปด้วย เมื่อเราสามารถถอนการยึดติดในตัวบุคคลผู้อื่นได้ แม้ว่าจะเป็นครูบาอาจารย์ที่เรารักอย่างยิ่งก็ตาม ก็จะทำให้เราสามารถถอนการยึดติดในตัวตนของเราไปได้ด้วย ถ้าสามารถทำกำลังใจแบบนี้ได้ โอกาสที่ท่านทั้งหลายจะขยับเข้าใกล้มรรคใกล้ผลก็จะมีขึ้นมาโดยอัตโนมัติ..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุ สามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-07-2024 เมื่อ 00:54
|