ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 15-07-2024, 23:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนปรัมปรโภชนานั้นเป็นอาหารที่เราฉันจากที่หนึ่ง แล้วไปฉันซ้ำในอีกที่หนึ่งในช่วงเวลาเดียวกัน อย่างเช่นว่าช่วงมื้อเช้าหรือว่าช่วงมื้อเพล คำว่า ปรัมปรนั้น ปร (ปะ-ระ) ก็คือ อื่น ๆ ได้แก่ ฉันก่อนและฉันหลังมื้ออื่น เพราะว่าญาติโยมบางท่านมีศรัทธา ถ้าพระฉันของเขาได้มากก็จะชื่นใจ แต่พระฉันจากที่หนึ่งแล้ว ไปฉันซ้ำในอีกที่หนึ่งก็ฉันได้น้อย ทำให้เจ้าภาพที่กำลังใจไม่ดีน้อยใจบ้าง เสียใจว่าตนเองทำอาหารไม่อร่อย พระเลยไม่ฉันบ้าง จึงต้องรอจนกระทั่งได้อานิสงส์กฐิน เราถึงจะฉันปรัมปรโภชนาได้

อานิสงส์ข้อต่อไปก็คือ "ผ้าที่เกิดขึ้นในที่นั้นเป็นของเธอ" คำว่าเป็นของเธอก็คือเรากินรวบเป็นเจ้าของคนเดียว ไม่ต้องไปทำวิกัปเป็นสองเจ้าของร่วมกับรูปอื่น ไม่เช่นนั้นแล้วผ้าที่เกินจากผ้าไตรมา เราต้องทำวิกัปกับรูปอื่นเป็น ๒ เจ้าของ ไม่อย่างนั้นแล้วเรามีสิทธิ์เก็บไว้ไม่เกิน ๑๐ วันเท่านั้น แล้วก็อย่าได้ไปอาศัยสิทธิ์ตรงนั้นตุนผ้าไตรจีวรเอาไว้หลาย ๆ สำรับ..!

ในเมื่อสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ กระผม/อาตมภาพพิจารณาแล้วว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปผ่อนคลาย ก็เลยยังถือตามปกติ จะได้ไม่ไปเผลอสติ เพราะว่าตั้งแต่แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ไปถึงกลางเดือน ๔ เป็นเวลาตั้งเกือบครึ่งปี..! ถ้าเราเผลอเมื่อไร เคยชินแล้วก็จะพลาดได้ เพราะคิดว่ายังไม่พ้นกลางเดือน ๔ เราท่านทั้งหลายจึงต้องระมัดระวังเอาไว้ให้มาก อย่างที่กระผม/อาตมภาพบอกพวกเราไปหลายต่อหลายครั้งแล้วว่า เรื่องของศีลตึงเอาไว้ก่อน พอถึงเวลาเราผ่อนก็จะพอดี แต่ถ้าท่านไปผ่อนตั้งแต่แรก ถึงเวลาไปผ่อนซ้ำก็ยานติดพื้นพอดี..!

แล้วโดยเฉพาะถ้าเป็นพระใหม่ ศึกษาตำราเล่มเดียวกัน อย่าไปตีความศีลแล้วมาข่มกันเอง จะโดนเพื่อนเตะปากเอา..! อ่านตำรามาเล่มเดียวกัน ศีลข้อเดียวกันแท้ ๆ ดันทะลึ่งทำเป็นว่ากูเคร่งครัดกว่า เขาทะเลาะเบาะแว้งกันมาทุกยุคทุกสมัย จนกลายเป็น "วิวาทาธิกรณ์" ไปแล้ว ก็แปลว่าเรามีหน้าที่รักษาสิกขาบทให้เคร่งครัดเฉพาะตน คนอื่นจะทำอย่างไรเรื่องของท่าน ครูบาอาจารย์มี พระอุปัชฌาย์อาจารย์มี เจ้าอาวาสมี ให้ท่านไปจัดการกันเอง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-07-2024 เมื่อ 03:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา