หลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บาลีกล่าวไว้ว่า เกวะละปะริปุณณัง ปะริสุทธัง บริสุทธิ์บริบูรณ์ สูงส่งที่สุดแล้ว ตัดออกก็ขาด เติมเข้าก็เกิน
คำว่า เกวะละ ที่คนไทยเขามาเขียนเป็น "ไกวัล" หมายถึงความบริสุทธิ์สูงสุดประการหนึ่ง ซึ่งใช้แทนคำว่าพระนิพพานได้ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น หลักธรรมในพระพุทธศาสนาจึงไม่ต้องตีความ ตีความเมื่อไรอาจจะผิดเมื่อนั้น มีหน้าที่ศึกษาและทำตามเท่านั้น
ยุคนี้สมัยนี้เป็นอะไรที่พุทธบริษัททั้งหลายลำบากมาก เพราะว่าเป็นยุคของ "ฆราวาสสอนธรรม" ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่าฆราวาสที่เก่งจริงเข้าถึงจริงตายหมดแล้ว..! เนื่องเพราะว่าสังขารความเป็นฆราวาส รองรับความบริสุทธิ์สูงสุดไม่ได้ ความบริสุทธิ์สูงสุดอย่างเช่นพระอรหันต์ มีคุณอนันต์และมีโทษมหันต์ ใครให้ความเคารพให้ความนับถือ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนก็มีคุณอนันต์ ใครที่ล่วงเกินก็มีโทษมหันต์ เปรียบเหมือนกับไฟ เราจะให้หุงต้ม ใช้ให้ความอบอุ่น ใช้ป้องกันสัตว์ร้ายต่าง ๆ ก็ได้ แต่ถ้าเผลอไปจับเข้าเมื่อไรก็ไหม้ พอง เดือดร้อน ไฟไม่ได้ทำอะไรเลย ไฟอยู่ของไฟเฉย ๆ..!
ดังนั้น..บรรดาท่านทั้งหลายที่ไปตีความสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอน บางท่านก็ตั้งใจเคร่งครัดเสียจนไม่ดูสภาพของสังคมปัจจุบัน อย่างที่ปีก่อนโน้น กระผม/อาตมภาพพาหลายท่านบิณฑบาตอยู่ แล้วก็มีคณะบุคคลมาชูป้าย "เย้ว ๆ" อยู่ว่า "อย่าถวายปัจจัยให้กับพระ คุณกำลังสร้างกรรมหนัก สร้างนรกให้ตัวเอง..!" คราวนี้เขาทั้งหลายเหล่านั้นก็ไม่ได้มาช่วยจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ไม่ได้มาช่วยจ่ายค่าเดินทางให้กับพระ บรรดาผู้ที่เคร่งครัดจนเกินเหตุ มักจะไม่ได้ดูว่าบริบทของสังคมไม่เหมือนอย่างกับยุคก่อน ๆ ไม่ต้องถึงสมัยพุทธกาล เอาแค่สมัยกระผม/อาตมภาพก็แล้วกัน
สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเด็กอยู่ พระขึ้นรถฟรีทุกคัน เข้าร้านอาหาร ญาติโยมถวายฟรี เพียงแต่ว่าตอนนั้นยังไม่ทราบว่าเข้าโรงพยาบาลแล้วรักษาฟรีหรือไม่ ? แต่ถ้าเป็นโรงพยาบาลสงฆ์ก็รักษาฟรี สมัยนี้ทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองไปหมด ไม่ใช่ว่าไม่มีคนถวายเหมือนก่อน พอมีอยู่บ้าง แต่หายากมาก แล้วกระผม/อาตมภาพก็ค่อนข้างเกรงใจ เนื่องเพราะว่าบางทีไปกัน ๕ รูป ตั้งใจว่าจะจ่ายเงินทองเอง ก็สั่งข้าวปลาอาหารมาเสียเต็มที่ พอถึงเวลาฉันเสร็จ ขอให้คิดเงิน โยมบอกว่า "ถวายครับ งวดหน้านิมนต์อีกนะครับ" เชื่อไหมว่ากระผม/อาตมภาพไม่เหยียบเข้าไปอีกเลย ?! เพราะรู้สึกว่าเราไปรบกวนญาติโยมโดยใช่เหตุ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2024 เมื่อ 03:12
|