วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพไปงานปฐมนิเทศและไหว้ครูประจำปี ๒๕๖๗ ของนิสิตทุกชั้นปี วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์มา
ในเรื่องของการไหว้ครูนั้น จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เนื่องเพราะว่าครูแทบจะเป็นทุกอย่างในชีวิตของเรา พ่อแม่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเรามา แต่ว่าครูบาอาจารย์ให้วิชาความรู้ เพื่อที่เราจะได้นำไปทำมาหากิน หรือว่ารักษาตัว รักษาครอบครัว รักษาประเทศชาติ โดยเฉพาะการเป็นศิษย์มีครู เหมือนกับมีเครื่องประกันความเสี่ยงว่า ต่อให้เราเผชิญหน้ากับสถานการณ์หนักหนาสาหัสขนาดไหนก็ตาม เราก็ยังมีครูเป็นที่พึ่งอยู่
ถ้าหากว่าจะกล่าวถึงในเรื่องของการฝึกฝนวิชาการต่าง ๆ ความมุ่งมั่น ความมั่นใจ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก อย่างที่ในขุนช้างขุนแผน ถึงเวลาจะรบราฆ่าฟันกัน ก็ยังมีการถามว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ? ใครเป็นครูบาอาจารย์ ? หรือว่าในพระคาถาโองการมหาทมื่นก็ยังกล่าวเอาไว้ว่า "กูเอ่ยถึงครูกู ใครจักสู้กูก็มิได้" นั่นก็คือความมั่นใจ
ดังนั้น..การที่จะเป็น "ศิษย์มีครู" ก็ต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะว่าเมื่อถึงเวลาแล้ว เราไปแสดงตนว่าเป็นศิษย์ ครูท่านรับรู้ มีความรู้ก็ถ่ายทอดความรู้ให้ มีทรัพย์สินสิ่งของหรือว่าข้าวของเครื่องใช้สำคัญอะไร ถ้าเห็นว่าเราเป็นผู้สมควรที่จะได้รับ หรือว่ารักษาสิ่งของนั้นได้ ท่านก็จะมอบให้กับเรา
ในสมัยนี้ส่วนใหญ่แล้วจิตวิญญาณความเป็นครูมีน้อย สมัยก่อนการเป็นครูคือเป็นทั้งชีวิต สมัยนี้การเป็นครู ลูกศิษย์นึกถึงแค่ตอนเรียน เรียนจบแล้วบางทียังจดจำชื่อนามสกุลครูไม่ได้เสียด้วยซ้ำไป ตัวอย่างบางคนเป็นเด็กกิจกรรม อยู่กับงานกิจกรรมมากกว่าวิชาที่เรียน ข้อสอบที่ครูออกมาประชดตอนที่ไปขอสอบซ่อมก็คือ "ครูผู้สอนวิชานี้มีชื่อว่าอะไร ?" แล้วดันตอบไม่ได้อีกต่างหาก..!
ในเรื่องของความเป็นครู สมัยก่อนเขาใช้คำว่า "แม่พิมพ์" แม่พิมพ์ก็คือต้นแบบที่ลูกศิษย์ต้องถอดแบบไปให้ได้ ต่อให้ไม่ได้ทั้งหมด ก็ต้องได้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ดังนั้น..ครูบาอาจารย์ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชายก็คือ "แม่พิมพ์" ไม่มี "พ่อพิมพ์"
"พ่อพิมพ์" นั้นเป็นการใช้คำที่ผิด สมัยนี้มีการใช้ผิด ๆ จนคนเข้าใจว่าเป็นของถูกมากมายเต็มไปหมด แม้กระทั่งหลักธรรมในพระพุทธศาสนาก็ยังไป "ตีความ" ผิด ๆ..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2024 เมื่อ 03:08
|