บรรดาตัวแสบต่าง ๆ ไม่ว่าจะในพื้นที่หรือที่อื่นไม่มีใครกล้าฝืนระเบียบเลย ไม่ว่าจะเรื่องบอกบุญเรี่ยไร บิณฑบาตแล้วนำข้าวปลาอาหารไปขายให้แม่ค้า เนื่องเพราะว่าหลวงเตี่ยท่านมีแค่สองมาตรา ไม่เสียเวลามาอธิบายกฎหมายให้อย่างที่กระผม/อาตมภาพทำ ถ้าไม่ "มาตรา ๕ สูง" ก็ "มาตรา ๕ ต่ำ" ผัวะเดียวร่วงไปเลย..! จนกระทั่งเขาไปร่ำลือไปว่า "มีเสืออยู่แถววังตะกู..!" ถ้าเจ้าคณะปกครองเข้มแข็งแบบนั้น คณะสงฆ์ก็จะเป็นไปด้วยดี
หรือไม่ก็อย่างสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อไพบูลย์ - พระธรรมคุณาภรณ์ (ไพบูลย์ กตปุญฺโญ ป.ธ.๘) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรียังอยู่ ท่านทำทุกอย่างให้พระภิกษุสามเณร อย่างชนิดที่ตัวเองเหนื่อยยากแค่ไหนก็ไม่เคยบ่น นุ่งผ้าอาบ เอาผ้าพันหัว มีผืนหนึ่งคาดพุง ผสมปูน แบกปูน เทปูน แข่งกับสามเณรก็เอา
งานการคณะสงฆ์ทุกอย่างท่านไม่เคยบกพร่อง พระภิกษุสามเณรอยู่ที่ไหนลำบากอย่างไร บอกท่านเมื่อไรท่านวิ่งไปช่วยทันที ขนาดท่านพาญาติโยมไปแสวงบุญที่อินเดีย เจอพระภิกษุสามเณรของไทยเราไปเรียนที่นั่น ท่านถวายปัจจัยรูปละ ๑๐๐ ดอลลาร์ ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักกันนั่นแหละ แต่รู้ว่าเป็นนักเรียนไทยที่นั่นท่านถวายหมด นั่นท่านชนะใจพระภิกษุสามเณรด้วยความดี ทุกคนเกรงใจและเกรงกลัวความดีของท่าน
เพียงแต่ว่าในปัจจุบันนี้ บรรดาเจ้าคณะปกครองส่วนหนึ่งก็รักษาตัวเอง ไม่อยากให้มีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นในเขตปกครอง ก็พยายามเหยียบเอาไว้ กวาดซุกไว้ใต้พรม บางแห่งขยะใต้พรมเพียบเลยก็มี..!
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เรื่องไม่ดีไม่งามเกิดขึ้นก็ต้องบอกว่าเป็นปกติธรรมดา แต่กระผม/อาตมภาพยกตัวอย่างเพื่อให้พวกเราสังวรไว้ว่า ตราบใดที่เรายังต้องอาศัยชาวบ้านอยู่ จะคิด จะพูด จะทำอะไร ต้องอยู่ในกรอบของศีลของธรรม ไม่อย่างนั้นถ้าหากว่าชาวบ้านเบื่อหน่ายขึ้นมา ไม่ให้การสนับสนุน พวกเราก็จะอยู่ไม่ได้..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-07-2024 เมื่อ 02:16
|