เราจะเห็นว่า ถ้าหากว่าเราเข้มงวดในหน้าที่การงานก็ต้องเสียสละตัวเอง อดกิน อดนอน แล้วแต่ภาระงานมากน้อยที่เกิดขึ้น และโดยเฉพาะนิสัยของกระผม/อาตมภาพก็คือ ถ้าเรื่องเกิดขึ้น จะไม่ให้กระทบกระเทือนถึงผู้ใหญ่ มาถึงตรงนี้ต้องจบลงที่ตรงนี้ เพียงแต่ว่าถ้าหากว่าผู้อื่นขาดความเข้มแข็ง ขาดความเข้าใจ บางทีก็ไม่อาจจะชี้แจงให้เขาเห็นอย่างชัดเจนได้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นผิด
ยกตัวอย่างอธิกรณ์ที่เกิดขึ้นที่วัดหนองเจริญ พระใหม่มีความขยันมาก เห็นว่าด้านหน้าวัดนั้นรก ไปจัดการตัดหญ้ายังไม่พอ ไปโค่นต้นไม้ลงอีกต่างหาก แต่กลายเป็นว่าต้นไม้เหล่านั้นทางหลวงปลูกเอาไว้ เป็นการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ กว่าที่กระผม/อาตมภาพจะชี้แจ้งให้เขาทราบได้ว่าคุณทำลายทรัพย์สินของทางราชการ เขาก็เถียงหัวชนฝาว่าพระเณรวัดนี้ขี้เกียจ แค่ทำความสะอาดข้างถนนหน้าวัดก็ไม่ยอมทำ เขาบวชเข้ามา เขาต้องเดือดร้อนมาทำ แล้วจะมากล่าวโทษอะไรเขาอีก..!
หรือไม่ก็อีกครั้งหนึ่งก็บวชเข้ามาแล้ว ไปบังคับให้สามเณรภาคฤดูร้อนนั่งกรรมฐานทั้งวัน ใครวิ่งเล่นออกไปซนเมื่อไรก็โดนตี กว่าจะอธิบายให้เขาเข้าใจว่า "อันดับแรก คุณเป็นพระใหม่ ถ้าหากว่าพระอุปัชฌาย์อาจารย์หรือเจ้าอาวาสไม่ได้มอบหน้าที่ให้ คุณไม่สามารถที่จะไปยุ่งกับพระภิกษุสามเณรภายใต้การปกครองของเจ้าอาวาสเขาได้ เพราะว่าเท่ากับว่าคุณกำลังละเมิดอำนาจเจ้าพนักงานตามกฎหมาย แล้วธรรมชาติของเด็กก็ต้องมีดื้อมีซนเป็นธรรมดา คุณจะให้สามเณรเรียบร้อยนั่งนิ่ง ๆ ทั้งวัน คุณเองทำได้ไหม ?"
แต่ละอย่างกว่าจะชี้แจงให้เข้าใจ บางทีกระผม/อาตมภาพก็เหนื่อยใจเต็มที่ ว่าเรื่องแค่นี้ทำไมพระอุปัชฌาย์อาจารย์ หรือเจ้าอาวาสบอกให้รู้เรื่องไม่ได้
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เรื่องยุ่ง ๆ ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ต้องบอกว่า เกิดจากความบกพร่องของพระอุปัชฌาย์อาจารย์และเจ้าอาวาสเป็นหลัก ตลอดจนเจ้าคณะปกครองไม่เข้มงวดกวดขันต่อเจ้าอาวาส เรื่องวุ่นวายต่าง ๆ จึงเกิดขึ้น ถ้าท่านทั้งหลายดูตัวอย่างจังหวัดนครปฐม สมัยที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ชุ้น - พระธรรมเสนานี (ชุณห์ กิตฺติวณฺโณ) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครปฐมยังอยู่ ทั้งจังหวัดเรียบเป็นผ้าพับไว้..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-07-2024 เมื่อ 02:14
|