หมอพยาบาลหญิง ห้ามถูกตัวพระ
เทศนาในคราวหนึ่งท่านกล่าวถึงความสำคัญและจำเป็นในการรักษาพยาบาลพระภิกษุไข้ในโรงพยาบาล ควรมีข้อปฏิบัติที่เข้มงวดเพื่อรักษาและเอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัยของพระ ดังนี้
"แม้เราจะพยายามรักษาตัวเองด้วยหลบหลีกไปไหน แต่ความที่โรคสุกงอมเต็มที่จึงแสดงอาการขึ้นมา ปลายปี ๒๕๒๗ ปรากฏว่าโรคหัวใจผสมกับโรคหอบที่เกิดขึ้นปัจจุบันทันด่วนได้กำเริบอย่างรุนแรง ทำให้เราต้องฝืนไปยอมนอนติดต่อกันถึง ๓ คืน เนื่องจากโรคหอบนี้มักเกิดขึ้นในเวลากลางคืน
หากตกใจหรือกำเริบขึ้นขณะนอนหลับนั้นย่อมแก้ไขไม่ทัน หมอจีนที่ลูกศิษย์นำมารักษาได้ถวายยาถูกกับโรค โรคหอบที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจึงสงบลงอย่างเด็ดขาดและไม่ปรากฏว่าได้แสดงอาการขึ้นอีกในภายหลัง
หมอเขารู้เรื่องอรรถเรื่องธรรมที่ไหน เขาไม่รู้เรื่อง เขาก็รู้วิชาของหมอ ปฏิบัติตามเรื่องของหมอล้วน ๆ ตามหลักวิชาเขาเรียน ทีนี้พระทั้งองค์ไปมอบตัวเป็นซุงให้เขาเลย แล้วแต่เขาจะถลุง แบบไหน ๆ เราไม่เป็นตัวของเราเลย
พอพูดอย่างนี้เราก็ย้อนไปถึงโรงพยาบาลอุดรฯ เราเอาพระไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลอุดรฯ พอผ่าตัดแล้วพวกหมอผู้อำนวยการสั่งให้หมอผู้หญิงเข้ามาพะรุงพะรังกับพระ เข้ามาฉีดยา เราพูดอย่างเด็ดเลย
"อย่ามายุ่งเลยนะ ไม่มีเลยหรือผู้ที่จะปฏิบัติให้ได้รับความสะดวกตามหลักกธรรมหลักวินัย จึงต้องเอาผู้หญิงเข้ามาฉีดยายุ่งเหยิง อย่าทำ..ไม่ให้ทำ" ว่าอย่างนี้เลย
"ก็ท่านอย่ามาเคร่งครัดในเวลาป่วยนี้ไม่ได้ ท่านอย่ามาเคร่งครัดในเวลานี้" ผู้อำนวยการเสียด้วยนะ พูดอย่างนี้
เราว่าอย่างนี้ "เราเคร่งครัดมาตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าโรงพยาบาลแล้ว เราไม่ได้มาสังหารธรรมวินัยนี้นะ เรามาเข้าโรงพยาบาล เรามาแก้โรคต่างหาก ถ้าไม่สมควรที่จะรักษาเราก็เอากลับได้ ที่ไหนก็มีป่าช้าทั้งนั้นแหละ..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-07-2024 เมื่อ 18:10
|