บอกกล่าวกับบรรดาพระเถรานุเถระที่อยู่ด้านนอกว่า กระผม/อาตมภาพจะต้องขอตัวออกมาก่อน เพราะว่าถ้าช้ารถจะติดสาหัส เนื่องจากบรรดาส่วนราชการต่าง ๆ ในจังหวัดกาญจนบุรีนั้น ต่ำสุดก็คือหัวหน้าส่วนราชการที่ต้องมาทั้งหมด ก็แปลว่ามาคนหนึ่งก็รถยนต์คันหนึ่ง แล้วหลายต่อหลายท่านก็มีรถนำมาอีกต่างหาก ทำให้รถแน่นไปหมดทั้งวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง)
ส่วนหนึ่งที่กระผม/อาตมภาพเคยสงสัยก็คือว่า การที่หลวงปู่พระมหากัสสปเถระก็ดี พระมหาโมคคัลลานะเถระก็ดี พระมหาจุนทะเถระก็ดี ฟังโพชฌังคปริตรแล้ว ทำไมถึงได้หายจากอาการป่วย ? นั่นก็เพราะว่าท่านทั้ง ๓ ได้เข้าถึงอาการสองอย่างพร้อมกัน อย่างแรกก็คือเมื่อตั้งใจฟัง จิตทรงสมาธิ เมื่อจิตเป็นฌาน สภาพจิตกับกายก็แยกออกเป็นคนละส่วน ไม่ได้เกี่ยวเนื่องถึงกัน อาการป่วยมากก็เหมือนกับป่วยน้อย อาการป่วยน้อยก็เหมือนกับหายไปเลย
อีกส่วนหนึ่งก็คือการพิจารณาวิปัสสนาญาณ จนกระทั่งเห็นชัดเจนว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา เป็นเพียงเปลือกที่เราอาศัยอยู่เท่านั้น ดังนั้น..สภาพของอาการเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นกินที่ร่างกาย ไม่ได้กินที่จิตใจ
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สภาพจิตกับกายที่แยกออกจากกันชัดเจน ก็ทำให้เห็นว่าสภาพของอาการเจ็บไข้ได้ป่วยเหมือนกับไม้กาฝากที่อาศัยเกาะเปลือกไม้เอาไว้ เพื่ออาศัยกินน้ำเลี้ยงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนร่างกายของเราคือต้นไม้หลัก ไม่ว่าจะเป็นกระพี้ จะเป็นแก่นนั้น ไม่ได้กระทบกระเทือนอะไรเลย เมื่อสามารถแยกจิตแยกกายออกได้อย่างชัดเจนแบบนี้ อาการป่วยก็เหมือนกับหายไป โดยไม่มีอะไรมากระทบกระเทือนอีกเลย
อีกส่วนหนึ่งก็คือความที่สภาพจิตดำเนินไปในความเลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างแท้จริง ด้วยอานุภาพของพระรัตนตรัยที่ยึดเกาะไว้แทนที่จะสนใจเวทนาทางร่างกาย จึงทำให้อาการป่วยได้หายไปในลักษณะที่เรียกกันว่า "ธรรมโอสถ"
เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าท่านผู้ที่ฟังอยู่สามารถกระทำได้ ก็สามารถใช้ธรรมโอสถนี้รักษาอาการป่วยไข้ต่าง ๆ ได้ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า บรรดาผู้ที่ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัตินั้น ก็มักจะต้องยอมรับกฎของกรรม
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-07-2024 เมื่อ 02:44
|