ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 02-07-2024, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,638 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพถวายการรับใช้ใกล้ชิดพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ตั้งแต่ประมาณเดือนกรกฎาคม ปี ๒๕๒๖ จนกระทั่งถึงเดือนเมษายน ปี ๒๕๒๙ ทุกครั้งที่อยู่ใกล้จะระมัดระวังกำลังใจตนเองอยู่เสมอ

เมื่อตั้งใจพินิจพิจารณาถึงได้เห็นว่า เวลาที่อยู่ใกล้ท่านใจของเราจะสงบเร็วมาก แล้วยิ่งถ้าหากว่าพระท่านส่งกำลังลงมาช่วย เราที่อยู่ใกล้ก็พลอยได้รับกำลังนั้นไปด้วย จึงได้เคยชินกับการรับกำลังของพระท่านเอามาใช้งาน เท่ากับว่าได้รับการฝึกฝนอยู่อย่างน้อยก็ประมาณ ๓ ปี แล้วเป็นการฝึกชนิดที่หัวไม่วางหางไม่เว้น เช้ายันค่ำ เพราะว่าเห็นประโยชน์ จึงเพียรพยายามที่จะทำให้ได้อย่างนั้น

แต่ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า เด็ก ๆ นั้นยังไม่เห็นประโยชน์ว่า เรื่องของกำลังใจ เรื่องของสมาธินั้น สามารถช่วยตัวเองได้แค่ไหน จนกว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่คับขันจริง ๆ ก็จะเป็นตัวคัดกรองที่ชัดเจนว่ากำลังใจของเราอยู่ในระดับไหน ?

ถ้าท่านทั้งหลายประสบพบกับอาการเจ็บไข้ได้ป่วยระดับถึงตาย หรือว่าอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ หนัก ๆ ขึ้นมาแบบกะทันหัน ท่านทั้งหลายจะรู้ทันทีว่าต้นทุนของเราพอใช้งานหรือไม่ ? หลายท่านจะเห็นว่าเวลาเกิดอุบัติเหตุ กระผม/อาตมภาพลงจากรถไป สิ่งแรกที่ถามคู่กรณีก็คือ "มีใครบาดเจ็บหรือไม่ ?" ก็คือจะไม่เอาตนเองเป็นหลัก รถของเราจะพังจะเสียหาย คนของเราจะมีเจ็บมีอะไรหรือไม่ ? ไม่ได้สนใจ แต่ไปดูคู่กรณีเสียก่อน

หรือถ้าหากว่าเหตุร้ายนั้นเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา สติสมาธิที่มารวมตัวกันเพราะความฉุกเฉินนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างจะเหมือนกับช้าลงโดยอัตโนมัติ โดยปฏิกิริยาของมนุษย์ทั่ว ๆ ไปไม่สามารถที่จะทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นได้ แต่ในสภาวะนั้น ถ้าหากว่าเป็นพวกวีดีโอเกม เขาจะบอกว่า "ระเบิดพลัง" ออกมา ซึ่งความจริงก็คือ พลังซ่อนเร้นหรืออะดรีนาลีน ทำให้สมรรถนะต่าง ๆ ของเรามีมากกว่าปกติหลายเท่า เห็นเหตุการณ์ที่เกิดเร็วกลายเป็นช้าไปหมด มองเห็นช่องทางว่าจะแก้ไขอย่างไรให้ออกมาให้ดีที่สุด ทั้ง ๆ ที่มีเวลาแค่ ๒ - ๓ วินาที แต่ในความรู้สึกของเรานานเหมือนอย่างกับเป็น ๑๐ นาที..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า สภาพจิตของเราที่ค่อย ๆ ฝึกฝน ค่อย ๆ ขัดเกลามาได้สั่งสมพลังเอาไว้ แต่เราไม่รู้ตัว เพราะว่าไม่ได้อยู่ในสภาพที่โดนกดดันอย่างหนัก กำลังเหล่านั้นจึงไม่ได้แสดงออกมา เมื่ออยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ต้นทุนทั้งหมดที่เรามีจะแสดงออกมาอย่างชัดเจนที่สุด เราจะรู้ทันทีเลยว่า สิ่งที่เราปฏิบัติมานั้นเพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่ ? คนที่ป่วยปางตายจะรู้เลยว่า ต้นทุนของตนเองตอนนี้พอที่จะไปพระนิพพานหรือไม่ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-07-2024 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา