วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ ต้องขออภัยต่อทุกท่านเป็นอย่างสูง ที่เสียงธรรมจากวัดท่าขนุนวันนี้มาช้า เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพต้องไปเป็นประธาน ในงานรดน้ำศพเจ๊เกี๊ยว (นางนฤณี สมบูรณ์) ซึ่งเป็นกรรมการวัดท่าขนุน มาแต่ดั้งแต่เดิมตั้งแต่สมัยหลวงปู่สาย (พระครูสุวรรณเสลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รูปที่ ๓ อดีตเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ) ท่านอาจารย์สมเด็จ (พระอธิการสมเด็จ วราสโย อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รูปที่ ๔) ท่านอาจารย์สมพงษ์ (พระสมุห์สมพงษ์ เขมจิตฺโต อดีตเจ้าคณะตำบลท่าขนุน เขต ๑ อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รูปที่ ๕) มาจนถึงรุ่นของกระผม/อาตมภาพนี้
โดยเฉพาะเจ๊เกี๊ยวนั้นพูดจีนแคะ ซึ่งกระผม/อาตมภาพเองก็มีเชื้อสายจีนแคะเช่นกัน จึงมีความสัมพันธ์กันหลายชั้นหลายเชิงมาก เจ๊เกี๊ยวก็เพิ่งจะใส่บาตรกระผม/อาตมภาพไปเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ปรากฏว่ามาเสียชีวิตเสียแล้ว
หลังจากนั้นก็ต้องเดินทางไปร่วมพิธีเปิดงานเทศกาลผลไม้ สืบสานลานบ้านลานวัฒนธรรม ของดีอำเภอทองผาภูมิ ซึ่งเมื่อไปถึงก็ได้ยินพิธีกรกล่าวถึงบรรดาสิ่งของทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ซึ่งเหล่าชาติพันธุ์ได้นำมาจัดแสดงและจำหน่าย โดยที่กล่าวถึงอาหารชนิดหนึ่งคือ "กระบองจ่อ" โดยที่บอกว่า "ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมคนไทยเรียกว่ากระบองจ่อ ?"
กระผม/อาตมภาพจึงต้องขอไมโครโฟนมาจากโฆษก พร้อมกับอธิบายว่าคำนี้มาจากภาษาพม่าคือ "งะบูจ่อ" งะ คือ ปลา ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นปลาเล็กปลาน้อยชุบแป้งทอด บู คือ น้ำเต้า แต่ว่าเป็นน้ำเต้าแบบทรงแตงโม ไม่ใช่น้ำเต้าแบบทรงน้ำเต้าจีน ซึ่งทางคนพม่านิยมนำมาหั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วชุบแป้งทอด คำว่า จ่อ คือ การทอด นั่นเอง คำนี้จึงมาจากคำว่า "งะบูจ่อ" แปลว่า "ปลาและน้ำเต้าชุบแป้งทอด" แต่คนไทยฟังไม่ถนัด ก็เรียกง่าย ๆ สบายลิ้นว่า "กระบองจ่อ"
แต่ว่าเมื่ออยู่ในพิธีและ ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานในพิธีก็มาถึงแล้ว ทางด้านโฆษกก็ยังคงบรรยายไม่เลิกถึงเรื่องของบ้านปิล็อก โดยมีคำขวัญของอำเภอทองผาภูมิที่ว่า "พุน้ำร้อนหินดาด ตลาดอีต่อง โบอ่องเจดีย์ ราชินีปูไทย เพลินใจแควน้อย เกินร้อยภูผา งามสุดตาเขื่อนวชิราลงกรณ" แล้วกล่าวถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ของอำเภอทองผาภูมิ ไปจบลงที่เหมืองแร่บ้านปิล็อก โดยที่กล่าวว่า "ได้ยินว่าคำว่า "ปิล็อก" นั้นมาจากคำว่า "ผีหลอก" ในภาษาไทย แต่ทำไมถึงกลายเป็นปิล็อกไปได้ก็ไม่ทราบ ?"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-04-2025 เมื่อ 19:30
|