วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพนำพระออกบิณฑบาตแล้วก็เปียกโชกกันไปทั้งวัด หลายท่านก็ถามว่า "ทำไมหลวงพ่อเล็กถึงไม่ห้ามฝน ?" กระผม/อาตมภาพอยากจะบอกว่า ถ้าคุณต้องการจะเป็นพระภิกษุสามเณรที่แท้จริง ต้องยอมรับกฎของกรรมอย่างหนึ่ง ต้องยอมรับกฎของธรรมชาติอีกอย่างหนึ่ง ก็ในเมื่อธรรมชาติอยู่ใต้ฟ้าก็ต้องมีฝนตก แล้วคุณจะไปห้ามฝนเพื่ออะไร ?
วิชาการต่าง ๆ ที่ศึกษามานั้นไม่ได้ศึกษามาเพื่อความสุขความเจริญของตนเอง หากแต่ศึกษามาเพื่อความสุขความเจริญของคนส่วนใหญ่ ถ้าหากว่าเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้แล้วคุณไปห้ามฝน เมื่อถึงเวลาสิ่งที่ได้รับคืนมาอาจจะหนักกว่าเดิมหลายเท่า เนื่องเพราะว่าเราไปฝืนกฎของธรรมชาติ..!
แม้แต่ครูบาอาจารย์ที่ท่านสอนมาก็บอกว่าอย่าไปห้ามตรง ๆ เพราะว่าเป็นการฝืนธรรมชาติ หากแต่ว่าให้ไปซ้าย ไปขวา ขึ้นบน ลงล่าง ก่อนหรือว่าหลังนั้นพอทำได้ แล้วสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ กระผม/อาตมภาพก็ยังระแวงอีกว่า ถ้ามัวแต่มาใช้กำลังใจไปกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ เมื่อถึงเวลาเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญเข้ามา แล้วเราใช้ไม่ได้ อาจจะเดือดร้อนมากกว่าที่คิด..!
ในเรื่องของลมฟ้าฝนไฟ ต้องบอกว่าทุกอย่างเป็นธรรมชาติ ในเมื่อเราไปเดินตากฝนก็ต้องเปียก แต่ว่าพระภิกษุสามเณรคือทหารในกองทัพธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเมื่อเป็นทหารย่อมไม่ใช่ดินเหนียว โดนฝนจะได้ละลาย แล้วยิ่งไม่ใช่ขี้ผึ้ง โดนแดดจะได้ละลาย ก็แปลว่าต้องทนแดด ทนฝน ทนทุกสภาวะ..!
ในช่วงที่นั่งรออยู่ที่หอฉันด้วยจีวรเปียก ๆ เพื่อที่จะรอฉันเช้าพร้อมกัน เนื่องจากว่าสายบิณฑบาตบ้านปอมเปยังมาไม่ถึง เพราะว่าเป็นเส้นทางที่ไกลที่สุด กระผม/อาตมภาพก็ได้บอกกล่าวกับพระภิกษุทุกรูปว่า เรื่องแบบนี้เท่ากับว่ากระผม/อาตมภาพสร้างความชอบธรรมให้กับท่านทั้งหลาย ถ้าหากว่าถึงเวลาท่านไปเป็นผู้นำคนอื่นเขา แล้วพระภิกษุสามเณรในปกครองจะมาอ้างว่าฝนตก ไม่อยากออกบิณฑบาต ท่านทั้งหลายจะได้อ้างอย่างเต็มปากเต็มคำว่า "หลวงพ่อเล็กพากูตากฝนบิณฑบาตทั้งปีทั้งชาติ..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-06-2024 เมื่อ 01:08
|