วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ ต้องบอกว่าวันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ที่ไม่น่าจดจำของชาวไทยเรา ก็คือเป็นวันที่ "คณะราษฎร์" ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มาเป็นระบอบประชาธิปไตย แล้วก็เละเทะมาจนทุกวันนี้
ความจริงจะว่าไปแล้ว องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็นผู้รู้รอบรู้จริงในทุกเรื่อง พระองค์ท่านตรัสถึงอธิปไตย คือความเป็นใหญ่ว่ามี
อัตตาธิปไตย - ถือตนเป็นใหญ่ ซึ่งสมัยนี้บางคนใช้คำว่า "เผด็จการ"
โลกาธิปไตย - ถือโลกเป็นใหญ่ ก็คือเสียงข้างมาก ที่สมัยนี้ใช้คำว่า "ประชาธิปไตย"
ธรรมาธิปไตย - ถือธรรมเป็นใหญ่ ซึ่งมีแต่เรื่องดีทั้งสิ้น
แต่พระองค์ท่านไม่เคยสรรเสริญเป็นการเฉพาะว่า ระบอบการปกครองในลักษณะไหนดี เนื่องเพราะว่าระบอบปกครองทุกอย่างต้องมีธรรมาธิปไตยถึงจะดี
อย่างเช่นถ้าเราดูว่าในเรื่องของสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ก็คืออำนาจสิทธิ์ขาดทั้งหมดอยู่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชี้เป็นชี้ตายได้ แล้วประเทศไทยสมัยรัชกาลที่ ๕ ทำไมถึงเจริญก้าวหน้ากว่าประเทศญี่ปุ่นอีก ? เป็นประเทศแรกในเอเชียที่มีรถไฟ แล้วความเจริญด้านต่าง ๆ ที่ยุโรปมี ไม่ว่าจะเป็นโทรเลข เป็นไฟฟ้า เป็นรถยนต์ หลั่งไหลกันเข้ามาในบ้านเราเมืองเรา นั่นก็คือเผด็จการแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แล้วท่านทั้งหลายลองพิจารณาดูว่าประชาธิปไตยในปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร ? นอกจากเพื่อพวกพ้องและตัวกู..!
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้สรรเสริญว่าระบอบการปกครองแบบใดดีอย่างแท้จริง เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นระบอบไหนก็ขึ้นอยู่กับคน ถ้าหากว่าเป็นคนดีมีศีลมีธรรม เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ก็สามารถที่จะสร้างความเจริญให้กับประเทศชาติบ้านเมืองในทุกที่ แต่ถ้าหากว่าขาดศีลขาดธรรม เห็นแก่พวกพ้องและตัวกู ก็จะเละเทะอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
ดังนั้น...ถ้าหากว่าเป็นการปกครองระบอบจักรพรรดิราช พระองค์ท่านตรัสถึงหลักจักรวรรดิวัตรเอาไว้ ว่าพระเจ้าจักรพรรดิต้องนั้นมีวัตรปฏิบัติแบบใดบ้าง ถึงจะสร้างความสุขให้แก่ชาวโลกได้ ถ้าหากว่าเป็นระบอบพระมหากษัตริย์ พระองค์ท่านก็ทรงตรัสถึงทศพิธราชธรรม ก็คือหลักธรรม ๑๐ อย่างที่องค์พระมหากษัตริย์จะต้องมี เพื่อที่จะสร้างความสุขให้แก่พสกนิกร
แล้วถ้าหากว่าเป็นระบอบโลกาธิปไตย หรือว่าประชาธิปไตยในปัจจุบันนี้ พระองค์ท่านก็ตรัสว่าจะต้องมีหลักอปริหานิยธรรม ๗ แล้วท่านทั้งหลายลองเปรียบเทียบดูว่า ในปัจจุบันนี้บรรดาคณะผู้ปกครองของเรา ซึ่งทะเลาะเบาะแว้งตบตีกันอยู่ในสภานั้น มีหลักอปริหานิยธรรม ๗ หรือไม่ ? อย่างเช่นว่า "พร้อมเพรียงกันประชุม พร้อมเพรียงกันเลิกประชุม" ไม่ใช่กูไม่อยู่มึงช่วยสอดบัตรแทนที หรือว่าให้เคารพผู้เป็นประธานในการประชุม ไม่ใช่ไปยืนกอดอก เท้าเอว หรือชี้หน้าด่าท่านประธานที่เคารพ..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2024 เมื่อ 02:40
|