ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงทำให้ปริยัติปฏิบัติต่อกันไม่ติด ฝ่ายที่ศึกษาเล่าเรียนก็มักจะเน้นไปในความก้าวหน้าเฉพาะทางโลก ฝ่ายปฏิบัติที่ต้องการพ้นทุกข์ ถ้าได้ครูบาอาจารย์ที่ไม่มีความสามารถ ก็หลงเตลิดเปิดเปิงนอกลู่นอกทางไปมากมาย จนกระทั่งกลายเป็นสังคมสงฆ์ที่สับสนวุ่นวายอย่างในปัจจุบันนี้
กระผม/อาตมภาพนั้นมีนโยบายง่าย ๆ ที่วัดท่าขนุนว่า พระภิกษุสามเณรที่บวชเข้ามา ขอแค่ให้ญาติโยมไหว้ได้เต็มมือเท่านั้น จึงเน้นในเรื่องของการสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐาน ไม่ให้ขาด โดยเฉพาะการทำวัตรเช้าเย็นมีถึง ๓ รอบด้วยกัน การเจริญกรรมฐานก็ต้องเริ่มกันตั้งแต่ตีสี่ เป็นต้น
จึงทำให้บุคคลที่อยู่รอบวัด ส่วนใหญ่ก็นำลูกหลานไปบวชที่วัดอื่น มีความเคารพในตัวหลวงปู่สาย อดีตเจ้าอาวาส แบบสุดจิตสุดใจ ถึงเวลาแห่ลูกหลานที่จะบวชมากราบขอขมาหลวงปู่แล้วก็ไปบวชที่อื่น เพราะกลัวว่าลูกหลานจะลำบาก โดยที่ใช้คำว่า "วัดท่าขนุนเคร่งเกินไป"
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ญาติโยมที่ต้องการพระภิกษุสามเณรที่เคร่งครัดอยู่กับวัตรปฏิบัติ แต่กลับไม่ยอมให้ลูกหลานบวช เอาไปบวชในวัดที่ฉันเช้าแล้วเอน ฉันเพลแล้วนอน ตอนบ่ายพักผ่อน ตอนค่ำจำวัด ก็เลยกลายเป็นจุดที่ก่อให้เกิดคำถามที่ว่า "พระสงฆ์มีประโยชน์อะไร ? มีหน้าที่อะไร ? เห็นแต่นอนกลางวันแข่งกับหมาไปวัน ๆ เท่านั้น..!"
จะว่าไปแล้วก็เป็นการที่ญาติโยมทั้งหลายทำตัวเองทั้งสิ้น ก็คือลูกหลานบวชก็เกรงว่าจะลำบาก ไม่ยอมให้บวชในวัดที่เคร่งครัดต่อวัตรปฏิบัติ แต่ให้ไปบวชในวัดที่สบายกับลูกหลานของตนเอง ถึงเวลาก็มาเรียกร้องว่าอยากให้พระเคร่งครัด กระผม/อาตมภาพก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ความต้องการที่ย้อนแย้งกันแบบนี้จะทำอย่างไร ?!!
แต่ขอติงไว้นิดหนึ่งว่า ท่านผู้ที่ตั้งคำถาม ถ้าไม่ใช่ตั้งใจหายอดไลค์ก็หาเรื่องให้ทัวร์ลงชัด ๆ..! เพราะว่าคำถามนั้นแรงไป ขณะเดียวกัน ท่านก็เป็นผู้ที่น่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าไม่มีโอกาสได้เจอกับหลวงปู่หลวงพ่อที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไม่มีโอกาสได้เจอกับพระนักพัฒนาที่เสียสละเพื่อพระพุทธศาสนา เพื่อญาติโยมทั้งหลายอย่างแท้จริง ได้แต่เจอกับบุคคลที่ทำให้ภาพพจน์พระพุทธศาสนาตกต่ำเท่านั้น
ต้องขอเอาใจช่วยให้ญาติโยมเจ้าของคำถาม ซึ่งน่าจะได้อานิสงส์ในการ "ดึงสติ" พระภิกษุสามเณรขึ้นมานิดหนึ่งตรงนี้ว่า ขอให้ผลบุญส่วนนี้นั้น ดลบันดาลให้ท่านได้พบพระภิกษุสามเณรผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างแท้จริง จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาตั้งคำถามเหล่านี้อีก
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวกับญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๒ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เถรี)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-06-2024 เมื่อ 01:35
|