เมื่อเห็นในลักษณะนี้แล้ว กระผม/อาตมภาพจึงได้แต่เวทนาว่า สิ่งที่ท่านทำนั้นไม่ว่าจะ "หงายการ์ด" ว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขาดสติทำไปโดยปราศจากความยั้งคิดก็ตาม สิ่งที่ท่านทำนั้น ภาษากฎหมายเขาใช้คำว่า "กรรมนั้นได้สำเร็จลงแล้ว" ก็แปลว่าโทษนั้นเกิดขึ้นแล้ว และโทษที่ทำในระหว่างเป็นพระภิกษุสามเณรนั้นก็หนักเป็นอย่างยิ่ง จึงเป็นเรื่องที่ท่านทั้งหลายได้ยินแล้วควรที่จะสังวรระวังเอาไว้
โดยเฉพาะท่านทั้งหลายที่ทราบข่าวแล้วไปใส่อารมณ์ด่าว่า ท่านต้องไม่ลืมว่าถ้าอ่านในพระไตรปิฎก จะพบว่ามีบุคคลซึ่งไปด่าว่าพระภิกษุ ซึ่งต้องอาบัติปาราชิก ขาดความเป็นพระไปแล้ว แต่เปลือกนอกของท่านยังห่มเหลืองอยู่ เมื่อไปด่าในลักษณะนั้นแล้ว กำลังใจของตนเองเศร้าหมองเพราะว่าประกอบไปด้วยโทสะ ตายไปจึงตกนรกเสียเอง..!
กระผม/อาตมภาพเคยใช้คำพูดประมาณว่า "เห็นคนอื่นลงนรก เราก็อย่าได้กระโดดตามลงไปด้วย" พยายามที่จะวางใจให้เป็นอุเบกขา เสพรับสื่อต่าง ๆ อย่างมีสติ พยายามมองให้เห็นว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้นยังเป็นปุถุชนอยู่ ย่อมเป็นผู้ที่หนาด้วยกิเลส ทำสิ่งหนึ่งประการใดในลักษณะของบุคคลที่มืดบอด เนื่องเพราะว่าโดนกิเลสชักจูง ก็ย่อมเป็นไปในทาง รัก โลภ โกรธ หลง เป็นธรรมดา
ถ้าเรามองในลักษณะนี้ แทนที่เราจะไปโกรธไปเกลียด ก็อาจจะรู้สึกเวทนาสงสารเสียด้วยซ้ำไป เนื่องเพราะว่าเขาทั้งหลายเหล่านั้นช่างกระไรเลย อันดับแรกเลย ครูบาอาจารย์ทอดทิ้ง ไม่มีการจ้ำจี้จ้ำไช พร่ำบ่นสั่งสอนให้ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของศีลของธรรมที่ดีงาม
อันดับที่สอง ท่านไม่ได้ศึกษาเรียนรู้อะไรเลยเกี่ยวกับการเป็นนักบวชที่ดี ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงกลายเป็น "คนตาบอดจูงม้าตาบอด" มีแต่จะตกเหวตกห้วยตายไปด้วยกัน กลายเป็นบุคคลที่น่าสงสารมากกว่าที่น่าจะโกรธ หรือว่าเกลียดชัง
จึงได้แต่แผ่เมตตาให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น เมื่อถึงเวลาแล้วจงมีกรรมดีส่วนใดส่วนหนึ่ง มาบรรเทาทุกข์บรรเทาโทษ ไม่ให้ท่านโดนลงโทษจนเต็มความผิดของท่าน หรือว่ากรรมดีนั้นมาเป็นอุปฆาตกรรม คือตัดรอนในส่วนเสียกลับกลายเป็นส่วนดี เหมือนกับพระองคุลิมาลเถระ จนมีโอกาสพลิกฟื้นในช่วงสุดท้าย
ถ้าไปสุคติแล้วก็ขอให้มีปัญญา สามารถมองเห็นทางที่จะหลีกหนีโทษเก่าของตน ประพฤติปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา ส่งตนให้ขึ้นสู่ภพภูมิที่สูงยิ่ง ๆ ขึ้นไป จะได้หลีกพ้นจากโทษเก่าของตนไปได้
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เถรี)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-06-2024 เมื่อ 01:07
|