วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ ขอเจริญพรขอบคุณแม่ชีชื่น ศรีสองแคว หัวหน้าแม่ชีวัดท่าขนุน ที่ตั้งใจจะจัดงานทำบุญวันเกิดให้กระผม/อาตมภาพในวันพรุ่งนี้ แต่ขออภัย..เจ้าของวันเกิดยังไม่ใส่ใจเลย..!
ในเรื่องของวันเกิด กระผม/อาตมภาพถือตามแบบโบราณ ก็คือจัดตอนอายุ ๖๐ ปี คราวนี้จะจัดครั้งต่อไปก็ต้องพยายามตะเกียกตะกายให้อยู่ถึง ๗๒ ปี ถ้ายังจะตะกายอยู่ไปถึง ๘๔ ปี ก็ต้อง "ตะบันน้ำกิน" กันแล้ว..!
ในเรื่องของวันเกิดนั้นตอนที่สมัยยังเป็นฆราวาส เป็นวันที่กระผม/อาตมภาพจะพาแม่ไปกินข้าว ไปทำบุญ เพราะวันเกิดของเรานั้น เป็นวันที่แม่ลำบากที่สุด พูดง่าย ๆ ว่าต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อให้ลูกเกิดมา ยิ่งในสมัยนั้นการแพทย์ไม่ดีอยู่ด้วย ยาแก้อักเสบสมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเด็กอยู่มีชนิดเดียว เรียกว่า "โปรเคน" ไม่รู้เหมือนกันว่าสมัยนี้ยังมีอยู่หรือเปล่า ? แล้วก็ไม่ใช่หาง่าย ๆ หายากมาก
ในเมื่อหมอก็ยังไม่ดี ยาก็ยังไม่ดี แถม "สุขศาลา" ที่สมัยนี้น่าจะประมาณโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ก็ยังหายากหนักเข้าไปอีก โรงพยาบาลประจำจังหวัดอยู่ห่างไปประมาณ ๓๖ กิโลเมตร ต้องนั่งรถไปเป็นวันกว่าจะไปถึง..! พวกท่านทั้งหลายคงนึกภาพไม่ออกว่า ระยะทาง ๓๖ กิโลเมตร นั่งรถอย่างไรเป็นวัน ๆ..!
ขอบอกว่านั่นหมายถึงสภาพรถดี ๆ วิ่งไปแล้วไม่มีอะไรชำรุดสึกหรอให้ต้องซ่อมกลางทาง ถ้าสภาพรถไม่ดีอาจจะต้องนอนค้างไปอีกคืนหนึ่งหรือสองคืน เนื่องเพราะว่าถนนเป็นแค่ลูกรัง สมัยก่อนเขาใช้วิธีขุดดินสองข้างทางขึ้นมาพูนจนเป็นคันยาว ๆ พอที่ให้รถวิ่งได้ แล้วก็ทับหน้าด้วยดินภูเขาที่เรียกว่า "ดินลูกรัง"
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ไม่ว่าจะถนนเส้นไหนก็ตาม สองข้างถนนจะต้องต่ำกว่าคันถนนประมาณ ๓-๔ เมตร พลาดตกลงไปถึงกับคอหักตายได้เลย..! แล้วรถยนต์ก็ยังเป็นรถโครงไม้ หัวโต ๆ ถึงเวลาก็ใช้เครื่องมือไปหมุนปั่นบริเวณหัวรถเพื่อที่จะสตาร์ทให้ติด บางทีปั่นจนเหงื่อไหลไคลย้อยก็ไม่ยอมติดสักที พูดง่าย ๆ ว่าวิ่งไปนี่ ถ้าเราใจร้อนเดินเองก็อาจจะถึงก่อนอีกด้วย..!
เนื่องเพราะว่าชาวบ้านที่เดินทางทุกคนก็พร้อมใจกันที่จะไป แล้วรถก็ใจดีเหลือเกิน ถึงเวลาจอดรถดับเครื่อง ลงไปช่วยคุณลุงคุณป้า คุณตาคุณยายขนของขึ้นรถ ไม่ว่าจะเป็นผลหมากรากไม้กล้วยอ้อยอะไรที่จะเอาไปขาย จัดขึ้นบนหลังคา มัดเสร็จสรรพเรียบร้อย ลงมาดูว่าคนขึ้นเรียบร้อยแล้วถึงไปสตาร์ทแล้วออกรถอีกที ก็แปลว่าแทบจะต้องจอดทุก ๆ ครึ่งกิโลเมตร..!
ฉะนั้น..ระยะทางแค่ ๓๖ กิโลเมตร สามารถวิ่งไปถึงได้ภายใน ๑ วัน ถือว่าเร็วมากแล้ว สมัยนี้ ๓๖ กิโลเมตรน่าจะสัก ๑๐ นาที กระผม/อาตมภาพไปประเทศพม่า เช่ารถจากย่างกุ้งไปไจ๊โท พอจากช่วงเมืองพะยาจีไปเมืองวอเพื่อจะไปไจ๊โท คนขับรถทำความเร็วได้ ๘๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง คุยโขมงโฉงเฉงบอกว่า "นี่เป็นถนนที่ขับรถได้เร็วที่สุดในประเทศพม่า"
อดีตครูบาน้อย (พระนาวิน สจฺจญาโณ) บอกว่า "น้องชายอาจารย์ขับอย่างช้าก็ ๑๒๐" เล่นเอาคนขับรถทำท่าช็อก ไปขับที่ดาวอังคารหรืออย่างไรถึงเร็วขนาดนั้น ? โดยที่ครูบาน้อยก็ไม่ได้บอกว่าน้องชายอาจารย์ขับรถอยู่ที่ประเทศไทย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-06-2024 เมื่อ 09:57
|