คราวนี้ในส่วนของท่านที่ย้ายมาอยู่กับเราก็ถือว่าเป็นพระวัดเดียวกัน ให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของวัดเรา ซึ่งสำหรับพระนักปฏิบัติแล้วก็ไม่มีอะไรลำบาก เรื่องของการตื่นตี ๓ ครึ่งเพื่อเจริญกรรมฐานด้วยกัน ถ้าหากว่าเป็นพระปฏิบัติ โดยเฉพาะผ่านสายพองยุบมา ถ้าเป็นที่ยุวพุทธิกสมาคม ไม่ว่าจะสาขา ๑ หรือว่าสาขา ๒ ที่กระผม/อาตมภาพไปเจอการอบรมพระธรรมทูตสายวิปัสสนารุ่น ๑ มา ต้องเริ่มภาวนาตั้งแต่ตี ๒ เลิก ๔ ทุ่ม..! ถ้าวันไหนครูบาอาจารย์นัดส่งอารมณ์ ก็จะมีเวลาเฉพาะตัวของเรา แต่ว่าเราต้องคำนวณว่าจะยกหนอ ย่างหนอ เหยียบหนอ ไปจนถึงที่นั่งของครูบาอาจารย์นั้น จะใช้เวลาเท่าไร ?
อย่าคิดว่าระยะทางแค่ ๔๐ - ๕๐ เมตร กระผม/อาตมภาพเคยใช้เวลาเดินเป็นชั่วโมงมาแล้ว..! เนื่องเพราะว่าถ้าสภาวธรรมละเอียดจริง ๆ เรารู้สึกว่าก้าวยาว แต่จริง ๆ แล้วก้าวสั้นมาก แทบจะไปกันทีมิลลิเมตรเลย..! รู้สึกว่าตัวเองยกเท้าสูงมาก แต่ปรากฏว่ายกพ้นพื้นมาประมาณแค่ครึ่งเซนติเมตรเท่านั้น
ดังนั้น..ถ้าหากว่าใครเจอในลักษณะอย่างนี้มา ก็จะรู้สึกว่าระเบียบวัดไม่ใช่ของยาก สวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาตร กรรมฐานร่วมกัน ในเวลาเรียนห้ามลา ยกเว้นเรื่องสำคัญที่ทางวัดจะพินิจพิจารณาเองว่าสมควรลาได้หรือไม่ ? แต่ถ้าเรียนจบแล้วจะย้ายกลับคืนสังกัดเดิมทันทีก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่ว่าตอนอยู่ร่วมกันต้องทำตามระเบียบเดียวกัน
เรื่องของระเบียบวินัยนั้นเป็นเบื้องต้นของนักปฏิบัติทุกรูป ใครก็ตามที่พยายามหลีกเลี่ยงระเบียบวัดหรือว่าวินัยสงฆ์ ขอให้รู้ว่าเราเป็นผู้ที่ปฏิบัติไปแล้วก็เอาดีไม่ได้..! เพราะว่าวินัยก็คือศีล ระเบียบก็คือศีล ก็คือข้อบังคับว่าต้องปฏิบัติอย่างไร หรือว่าห้ามปฏิบัติอย่างไร ในเมื่อระเบียบวัดหรือว่าวินัยสงฆ์ที่เป็นของหยาบ เรายังทำให้ดีไม่ได้ โอกาสที่จะเข้าถึงสภาวธรรมที่เป็นของละเอียดก็แทบจะไม่มีเลย..!
ดังนั้น..ถ้าหากว่าท่านที่บวชรุ่นเก่า ๆ จะได้ยินพระอุปัชฌาย์หรือคู่สวด ท่านให้อนุศาสน์ ๘ ที่จะสรุปว่า สีละปะริภาวิโต สะมาธิ มะหัปผะโล โหติ มะหานิสังโส
อานิสงส์ใหญ่ของการระมัดระวังรักษาศีลโดยรอบคอบ ก็คือจะทำให้สมาธิเจริญขึ้น เนื่องเพราะว่าในขณะที่เราระมัดระวังศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ สติสมาธิต้องจดจ่ออยู่เฉพาะหน้า โดยเฉพาะว่าถ้าเราขยับตัวเมื่อไร รู้ว่าศีลจะขาดหรือไม่ ? ถึงจะถือว่าใช้ได้
การที่ต้องตั้งสติระมัดระวังขนาดนั้น จึงทำให้สมาธิเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ บางท่านไม่รู้เสียด้วยซ้ำไปว่า ขณะที่ตนเองระมัดระวังรักษาศีล ก็คือการสร้างสมาธิไปในตัว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-06-2024 เมื่อ 02:40
|