ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 11-06-2024, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การประชุมครั้งนี้จึงค่อนข้างจะรวบรัดตัดตรง มีการกล่าวถึง "ลัทธิเชื่อมจิต" เพียงเล็กน้อย ตลอดจนกระทั่งสามเณรนั่งกรรมฐานแล้วเด้งดึ๋ง ๆ เป็นกบที่อยู่ในเขตปกครองของกระผม/อาตมภาพเอง จากนั้นก็เป็นการเลือกประธานรุ่นคนใหม่ ปรากฏว่ากระผม/อาตมภาพได้รับการเสนอชื่อจากท่านพระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ ปธ. ๗ แล้วพรรคพวกส่วนที่เหลือก็ยกมือให้เป็นเอกฉันท์ ไม่มีใครคัดค้านแม้แต่คนเดียว..! จึงต้องรับตำแหน่งเป็นวาระที่ ๓ บวกกับตำแหน่งรักษาการในช่วงที่โควิด ๑๙ ระบาด ก็กลายเป็น ๔ วาระไปแล้ว

หลังจากนั้นก็กำหนดการประชุมครั้งที่ ๒ ของปี ๒๕๖๗ ทุกเสียงจิ้มลงไปที่วัดท่าขนุนของท่านประธาน ไม่ทราบเหมือนกันว่าติดใจกบทอดกระเทียมของทางทองผาภูมิหรือเปล่า ? เพราะว่าคราวที่แล้วพอสั่งมาแล้วฉันกันกระจาย ชนิดแทบไม่เหลืออะไรติดก้นจานเลย ในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ กระผม/อาตมภาพไม่ได้คิด ญาติโยมตลอดจนกระทั่งเพื่อนพระจะไปวัดเมื่อไรก็ยินดีต้อนรับ และยินดีที่จะถวายภัตตาหารเช้า - เพลทั้งสิ้น

เพียงแต่ที่มากล่าวนั้นก็เพราะว่าตำแหน่งพระอุปัชฌาย์นั้นเป็นตำแหน่งการปกครองที่สำคัญยิ่ง เพราะว่าเป็นด่านสำคัญในการที่จะอนุมัติให้กุลบุตรนั้นอุปสมบทเข้ามาในพระพุทธศาสนาหรือไม่ ? พูดง่าย ๆ ว่าเป็นตัวกรองที่สำคัญที่สุด อย่างของวัดท่าขนุนนั้น กระผม/อาตมภาพก็ต้องทำการเช็คประวัติอาชญากรรมก่อน ท่านใดถึงมีประวัติ แต่ถ้าคดีสิ้นสุดแล้วก็ยินดีที่จะรับบวชให้ แต่ถ้าหากว่ายังติดคดีอยู่ คุณก็ต้องไป "เคลียร์" ให้เรียบร้อยเสียก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วถึงเวลามีตำรวจบุกมาถึงวัดเพื่อที่จะล็อคตัวไปขึ้นศาล ก็คงไม่ใช่เรื่องที่งดงามนัก

ในขณะเดียวกัน ถ้าหากว่าพระอุปัชฌาย์บวชแล้วมีการอบรมสั่งสอนอย่างเข้มงวด ต่อให้พระภิกษุที่อุปสมบทเข้ามาไม่ได้มีความตั้งใจจริงอะไรเลยก็ตาม อย่างน้อยก็ต้องซึมซับสิ่งที่ดี ๆ ไปบ้าง จะได้รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด ในเมื่อรู้ถูกรู้ผิดแล้วยังเลือกผิดอีก นั่นค่อยไปว่ากันอีกครั้งหนึ่งว่าจะมีการลงโทษกันในลักษณะใดบ้าง

ในเมื่อมีการประชุมเพื่อที่จะหาแนวทางร่วมกัน ในการบริหารจัดการงานต่าง ๆ ลักษณะแบบนี้ ก็จะทำให้เราท่านทั้งหลายได้ประสบการณ์ที่เรียนลัดได้ อย่างเช่นว่าท่านอาจารย์มหาประเสริฐ มหานาโค จากวัดกลาง จังหวัดสมุทรปราการ ท่านได้พูดถึงในเรื่องของการที่ได้อุปสมบทพระภิกษุรูปหนึ่ง ปรากฏว่าท่านนี้ป่วยเป็นแอกอฮอล์ลิสซึ่ม ถ้าหากว่าขาดสุราเมื่อไรก็จะอาละวาด จึงได้ทำการสึกหาลาเพศไป โดยที่ท่านนั้นเองก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่พระอุปัชฌาย์อาจารย์ให้ท่องนั้นก็คือคำขอลาสิกขา กระผม/อาตมภาพก็ยังขำ ๆ ว่าจัดการแบบนี้ก็ได้ด้วย..!??

แล้วขณะเดียวกัน ถ้าหากว่าเรามีประสบการณ์มาก ๆ เมื่อเจอเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันก็จะได้ดำเนินการในวิธีเดียวกัน โดยที่ไม่ต้องเสียเวลามาคิด ถ้าหากว่าเราดำเนินการเสร็จสรรพเรียบร้อยลงไปเร็วเท่าไร เราก็ไม่ทำให้ศาสนาบอบช้ำและเสียหาย ถ้าหากว่าจัดการช้าเท่าไร เราก็จะทำให้เรื่องไปถึงสื่อต่าง ๆ ซึ่งถ้าหากว่าไปถึงสื่อ เรื่องก็จบยากแล้ว ในเมื่อสรุปลงเรียบร้อยแล้วว่าแต่ละเรื่องควรจะจัดการอย่างไร กระผม/อาตมภาพก็ขออนุญาตปิดประชุม บอกลาพรรคพวกเพื่อนฝูงและเดินทางไปยังวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสรต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุ สามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-06-2024 เมื่อ 02:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา